ไม่มีใครอยากมีเพื่อนเพื่อรู้สึกแปลกแยก เป็นตัวประหลาด ส่วนมากอยากมีเพื่อนเพื่อรู้สึกว่าอยู่ด้วยกันแล้วเราเป็นพวกเดียวกัน การมีเพื่อนสักคนที่คิดอ่านเหมือนเรา มีความชอบ ทัศนคติคล้ายกันจะทำให้เราสบายใจ ไม่ต้องระวังคำพูดคำจา มีความชิลล์ที่จะแชร์สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไม่กั๊ก เพราะเรารู้ว่าเพื่อนคนนี้จะต้องตอบสนองเราอย่างจริงใจเพราะศีลเสมอกันอยู่แล้วนั่นเอง
เมื่อมีไอเดียอะไร หรือมีปัญหาอะไรก็จะพูดคุยทันที และเข้าใจกันทันทีเหมือนมองตาก็รู้ใจ ไม่ต้องพูดหลายรอบ เป็นความสบายใจที่จะหาได้ง่ายจากเพื่อนที่มีอะไรคล้าย ๆ กัน เพราะถูกสมองสั่งว่า ไอ้เจ้านั่นมันเป็นพวกเดียวกับเรานะ ซึ่งหากจะเปรียบเพื่อนกลุ่มนี้เป็นอาหารก็น่าจะเป็นอาหารจานโปรดของเรา กินแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อย แต่ข้อเสียก็คือความที่เหมือนกันมากก็อาจทำให้เราเบื่อได้
ในทางตรงกันข้ามมนุษย์ก็ยังชอบความท้าทาย บางคนไม่เน้นที่จะสร้างกลุ่มเพื่อนบนพื้นฐานของความสบายใจหรือเหมือนกัน แต่กลับเลือกที่จะเป็นเพื่อนกับคนที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพื่อเติมเต็มกันและกันในสิ่งที่ต่างคนต่างขาดหาย หรือที่เราเรียกว่า opposites attract คนยิ่งต่างกัน ยิ่งดึงดูดเข้าหากัน ถ้าเปรียบเพื่อนกลุ่มนี้เป็นอาหารก็น่าจะเป็นอาหารที่เรารู้จักแต่ไม่เคยกินมาก่อนเลย
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่สรุปไว้ว่า การคบเพื่อนที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดความ active ในการเรียนสูง มีความรอบคอบมากขึ้น เพราะความแตกต่างจะนำไปสู่การตั้งคำถามเพื่อพัฒนา ปรับปรุงตัวเองให้ไปในทางที่ดียิ่งขึ้นไป และเพื่อที่จะก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย บางครั้งเราก็ต้องการเพื่อนที่ไม่กลัวที่จะเสี่ยงเพื่อเรียนรู้ที่จะเป็นคนกล้ามากขึ้น หรือถ้าเราเป็นคนติ๋ม ๆ การมีเพื่อนเปรี้ยว ๆ สักคนก็น่าจะช่วยกันบาลานซ์พลังได้ดีเลย
เพื่อนบางคนไม่ใช่แค่ตรงข้ามกับเราโดยสิ้นเชิง แต่มันคือความรู้สึกที่ว่า ‘คนแบบนี้มีด้วยเหรอเนี่ย’ บางคนที่เรานึกไม่ถึง ไม่เคยจินตนาการว่ามีอยู่หรือไม่เคยเจอ อาจจะด้วยพื้นเพที่อยู่อาศัย เชื้อชาติ ศาสนา หรือสัญชาติที่แตกต่างกัน การคบเพื่อนที่เขามีสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยก็ไม่ต่างกับการมีเพื่อนที่มาจากโลกอนาคตที่จะสามารถเปิดหู เปิดตา เปิดโลกใบใหม่ให้เราเข้าไปทำความรู้จัก
ถ้าเปรียบเพื่อนกลุ่มนี้เป็นอาหารก็น่าจะเป็นอาหารประจำถิ่นจานอร่อย ที่ถ้าเราไม่ไปที่นั่นเราก็จะไม่รู้เลยว่ามีอยู่ นอกจากจะช่วยเปิดหูเปิดตาแล้ว ยังเป็นการปูทางให้เราเข้าใจความแตกต่างและมองเห็นความสวยงามของความหลากหลาย ไม่กลัวที่จะสื่อสารกับคนที่ไม่ได้มีพื้นเพเดียวกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งเราทุกคนต้องการโค้ชหรือเมนเทอร์ในลักษณะที่ว่า เขารู้มากกว่า ใครสักคนที่สายตายาวไกลกว่าเรา ใจกว้างกว่าเรา หูตาไวกว่าเรา มีความมุ่งมั่นมากกว่าเรา มีความคิดเจ๋ง ๆ มากกว่าเรา ลึกซึ้งหรือมีประสบการณ์ในบางเรื่องมากกว่าเรา เพราะเพื่อนเหล่านี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้เราไปต่อได้ไกลขึ้น
ด้วยความรู้ชุดเดียวกัน เราคิดได้แค่นี้ แต่เพื่อนอีกคนคิดได้มากกว่า คนที่มองเห็นทางออกหลายทิศทางกว่าเราในขณะที่เรามองเห็นแค่ 1 หรือ 2 ทาง มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยเหลือเราได้ ถ้าเปรียบเพื่อนกลุ่มนี้เป็นอาหารก็น่าจะเป็นอาหารที่เราชอบกิน แต่เขาเอาไปปรับสูตรใหม่ใส่อย่างอื่นเพิ่มแล้วมันดันอร่อยกว่าสูตรที่เราเคยกิน