ปัจจุบันท่านได้มาอยู่พำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่ารัตนวัน บ้านคลองปลากั้ง ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ได้มีราชกิจจานุเบกษาประกาศ พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ "พระฟิลลิป ญาณธัมโม" เป็น "พระราชวชิรญาณ"
ชื่อเดิม ฟิลลิป จอห์น โรเบิร์ต ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๘ ที่เมืองอาดิเลด ประเทศออสเตรเลีย เดิมเป็นอาจารย์ฝึกสอนชีววิทยา แต่เพราะความบังเอิญได้รู้จักพระพุทธศาสนา และเกิดความสนใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงได้ถวายตัวเป็นผ้าขาวที่วัดป่าพุทธธรรม อ.เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ.๒๕๒๑ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีความตั้งใจจะมาบวชในพระพุทธศาสนา ตามคำแนะนำของพระอาจารย์ขันติพาโล (เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธธรรมในขณะนั้น) โดยได้บรรพชาเป็นสามเณรกับ สมเด็จพระญาณสังวร ที่วัดบวรนิเวศ จากนั้นเดินทางไปปฏิบัติธรรมกับ หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม ที่วัดเขาน้อยสามผาน จังหวัดจันทบุรี
พ.ศ.๒๕๒๓ อุปสมบท และจำพรรษาที่ วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี หลวงปู่ชา สุภัทโท เป็นพระอุปัชฌาย์
คือตอนนั้นอาตมาบวชใหม่ๆ พรรษาแรกอยู่ที่วัดหนองป่าพง ปีนั้นพระเณร ๗๐ กว่ารูป พระเยอะ ญาติโยมเข้าวัดกันมาก
วันนั้นได้ไปบิณฑบาต ตอนกลับจากบิณฑบาตมีพระองค์หนึ่งมาคุยด้วย และพระองค์นั้นก็เพิ่งบวชใหม่เหมือนกัน ทั้งสององค์ต่างยังมีนิสัยแบบฆราวาส และพระองค์นั้นก็ได้ไปตำหนิติเตียนพระที่อยู่ในวัดที่ไม่ถูกใจ
อาตมาฟังแล้วคิดในใจว่า บวชเป็นพระทำไมมาจับผิดกัน ทำไมท่านตำหนิพระองค์นั้นองค์นี้ ก็เลยเดินหนีไม่อยากคุยด้วย แต่ไม่ได้เดินหนีอย่างเดียว เดินหนีตำหนิท่านในใจ ยังคิดเรื่องท่าน
พอดีเดินสวนทางกับหลวงพ่อชาท่านยิ้มและทักทายเป็นภาษาอังกฤษว่ากู๊ด มอร์นิ่ง!!! ซึ่งทำให้อารมณ์ของอาตมาเปลี่ยนทันทีที่กำลังขุ่นมัวหงุดหงิด กลับเบิกบานปลื้มปิติที่หลวงพ่อชา ท่านทักเรา.
ถึงเวลาสวดมนตร์เย็นทำวัด หลวงพ่อชาให้อาตมาเข้าไปอุปัฏฐากถวายการนวดที่กุฏิของท่านเป็นการส่วนตัว.อาตมารู้สึกตื่นเต้นดีใจมากกับโอกาสใกล้ชิดอยู่สองต่อสองที่หาได้ยากอย่างนั้น แต่ขณะที่กำลังถวายการนวดอย่างตั้งอกตั้งใจและปลื้มปิติ
ทันใดนั้นเอง อย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว หลวงพ่อก็ถีบเปรี้ยงเข้าที่ยอดอกซึ่งกำลังพองโตด้วยความรู้สึกภาคภูมิของอาตมาจนล้มก้นกระแทก
แล้วท่านก็ตำหนิว่า
"…..จิตใจไม่มั่นคง พอไม่ได้ดังใจก็ขุ่นเคืองหงุดหงิด เมื่อได้ตามปรารถนาก็ฟูฟ่อง…."
ผมฟังท่านดุไปหลาย ๆ อย่างแล้วร้องให้เลย
……ไม่ใช่เพราะโกรธหรือเสียใจ แต่เพราะซาบซึ้งในพระคุณของท่าน หลวงพ่อเมตตามากที่ช่วยชี้กิเลสของเรา ไม่เช่นนั้นเราก็คงมืดบอดมองไม่เห็น คงเป็นคนหลงอารมณ์ไปอีกนาน….."
หลังจากนั้นท่านได้ออกธุดงค์ และจำพรรษาตามวัดสาขาของวัดหนองป่าพง เป็นเวลา ๕ ปี และธุดงค์วิเวกไปทางภาคเหนือเป็นเวลาหลายปี ท่านได้อยู่ศึกษาธรรมกับหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ที่วัดป่าอรัญญวิเวก บ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ครั้งนึงท่านพระอาจารย์ญาณธัมโม ท่านเล่าว่า..
“ตอนที่ท่านไปอยู่กับหลวงพ่อเปลี่ยนที่วัดป่าอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่นั้น ท่านเคยไปกราบขออนุญาตไปจำพรรษาที่อ.ดอยสะเก็ด เพราะมีโยมศรัทธาถวายที่ดิน
ช่วงนั้นใกล้เข้าพรรษาแล้ว หลวงพ่อเปลี่ยน ท่านเตือนเสียงแข็งถึง ๓ หนว่า “ไม่ให้ไป”
เราเองก็แปลกใจ ปกติหลวงพ่อเปลี่ยน ท่านเมตตาเรามากทำไมคราวนี้จึงดุเราเสียงดัง แต่เราเองรับปากโยมไว้แล้ว จึงจำเป็นต้องไป
พอไปถึงสถานที่นั้นเราก็ทำข้อวัตรสวดมนต์นั่งสมาธิ ช่วงหัวค่ำปรากฏใบหน้าผู้หญิงลอยมาแต่ศีรษะ ลักษณะใบหน้าเขาเป็นคนหน้าเรียวแก้มตอกริมฝีปากบาง ๆ ดวงตาดุร้าย ที่ใบหน้ามีรอยบาก เส้นผมหยิกยาวเกรอะกังไปด้วยเลือด ศีรษะเขาลอยเข้ามา ลอยออกไปอยู่ตลอดคืน เราอุทิศส่วนกุศลให้เขาทั้งคืนเขาก็ไม่ยอมรับ
พอรุ่งเช้าเราถามว่าที่ดินนี้เป็นของใคร เจ้าของที่บอกว่า จริง ๆ แล้วที่ดินนี้เป็นของคุณป้าของเขา ป้าเขาเป็นคนลักษณะนิสัยปากร้าย ปล่อยเงินกู้ให้คนยืม วันหนึ่งป้าไปทวงเงินลูกหนี้ที่ตลาด ด้วยที่เป็นคนปากร้าย จึงด่าเขารุนแรง ลูกหนี้ผูกใจเจ็บกลางคืนจึงมาดักทำร้าย โดยฟันที่ศีรษะ
เราถามเขาถึงลักษณะรูปพรรณสัณฐานใบหน้าก็ตรงกัน แต่เราไม่ได้ว่าเราอะไรให้เขาฟัง กลัวเขาเสียใจ เราคิดว่าวิญญาณเขาคงหวงที่ดินนี้ วิญญาณจึงยึดติดไม่ไปไหน แล้วคอยมาวนเวียนรบกวนอยู่ตลอด จากนั้นเราจึงให้ญาติเขาทำสังฆทานอุทิศบุญกุศลให้ป้าของเขาเสีย แล้วเราจึงจากที่นั้นมา เราจึงได้ระลึกถึงสาเหตุที่หลวงพ่อเปลี่ยน ท่านห้ามเรานัก ห้ามเราหนา ที่แท้ก็เป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง องค์ท่านเองรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเราไม่เชื่อคำทักทาน ท่านจึงให้เราได้มาเห็นเอง..”
พ.ศ.๒๕๓๗ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ และเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้แก่ชาวต่างประเทศที่สนใจโดยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นรองเจ้าอาวาสที่วัดป่าโพธิญาณ เมืองเพริธ ประเทศออสเตรเลีย เป็นระยะเวลา ๘ ปี
พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๕๐ เป็นเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ.๒๕๕๑-ปัจจุบัน พำนัก ณ วัดป่ารัตนวัน บ้านคลองปลากั้ง ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๓ได้มีราชกิจจานุเบกษาประกาศ พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ "พระฟิลลิป ญาณธัมโม" เป็น "พระราชวชิรญาณ"