ทำไมการที่เราเรียนภาษามาตั้งแต่อนุบาล ท่องมาตั้งแต่ประถม สอบตั้งเยอะมาตั้งแต่มัธยม แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่ได้อะไรเลยเท่าที่ควร บางคนอาจจะพูดไม่ได้สักที บางคนอาจจะฟังไม่รู้เรื่องสักที บางคนอาจจะเขียนไม่ได้ หรือ English Grammar ไม่ได้เลย ส่วนสาเหตุมันมาจากอะไร มาดูกันเลย
• ไม่มีเป้าหมายในการเรียนภาษาที่ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม
• เรียนแบบท่องจำ เรียนเพื่อสอบ พอสอบแล้วก็ลืม
• กลัวที่จะผิด กลัวพูดผิด กลัวหน้าแตก กลัวพูดแล้วจะดูตลก
• อายเพราะพูดผิด เก็บไปเป็นปมด้อย จนเกิดความกลัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
• คิดว่าคงไม่ได้ใช้ ยังไงก็ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิด ทำให้เสียโอกาสเรียนรู้
• พื้นฐานไม่ดี บวกกับขี้เกียจเริ่มใหม่ ก็เลยไม่ได้สักทีเพราะพื้นฐานไม่แน่น
• ไม่เคยใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ทำให้คิดและพูดไม่ออก ตื่นเต้น บางคนคิดเป็นภาษาไทย
อะไรที่คนอื่นบอกว่าสำคัญ แต่ถ้ามันไม่ได้สำคัญกับเรา เราก็คงไม่จริงจัง บางคนไม่ตั้งใจเรียนภาษาเลย เรียน ๆ ไปงั้น มัวแต่ลังเล โอ้เอ้ ไม่จริงจังเหมือนความตั้งใจอื่น ๆ ในชีวิต เพราะคิดว่าในอนาคตคงไม่ได้ใช้หรอก แต่อยู่ดี ๆ มีโอกาสได้ไปต่างประเทศแบบส้มหล่น จะว่าตลกร้ายก็ได้ แต่ไม่มีใครหนีภาษาพ้น ! ทุกวงการไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ตาม วิศวกร หมอ ไกด์ ครู นักร้อง นักการเมือง เซลล์ ผู้กำกับ พนักงานขายของ แม่ค้าพ่อค้า ฯลฯ คนเราต้องใช้ภาษามากกว่า 1 ภาษาเสมอ
• อย่าอายที่จะพูด จำไว้ว่าทุกครั้งที่เราผิด เราจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เขียนผิดก็ได้รู้ว่าแบบไหนถูก พูดผิดก็ได้รู้ว่าแบบไหนคือถูก ดีจะตาย ครั้งต่อไปจะได้ใช้ถูก เปลี่ยนทัศนคติที่ว่าผิดหรือถูก เป็นรู้กับยังไม่รู้
• กล้าพูด อาจจะเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยชุดประโยคขอร้อง เช่น การพูดคำว่า sorry สุภาพ ๆ กับ native speaker หรือคนไทยด้วยกันเองที่ยืนขวางทางออกรถไฟฟ้า ให้มันชินปากด้วยประโยคง่าย ๆ เรียกกำลังใจให้ตัวเอง ถ้าเขาขยับทางให้ แสดงว่าเราประสบความสำเร็จไปแล้ว ง่ายนิดเดียว
• เวลาสื่อสารเราพูดแกรมม่าผิดได้ไม่เป็นไร แต่ต้องเรียนรู้และยอมรับเพื่อนำไปปรับปรุง หากมีใครบอกว่าคำนี้เราออกเสียงผิดนะ แกรมม่าผิดนะ อย่าไปโกรธเขา ขอบคุณที่เขาใส่ใจจะแก้ให้เรา เขาช่วยเรา ไม่ได้ล้อเราสักหน่อย
• พยายามไม่คิดเป็นภาษาไทยก่อนพูด พูดออกมาโดยอัตโนมัติ แปลศัพท์อังกฤษ-อังกฤษ จีน-จีน สเปน-สเปน เพราะเราจะได้ฝึกคิดเป็นภาษานั้น ๆ ฝึกบ่อย ๆ ไม่มีอะไรยาก เพียงแค่เรายังไม่ชินเอง
• พื้นฐานไม่แน่นให้เรียน เรียนให้เข้าใจ จับจุดให้ได้ในแต่ละ Tenses ว่าใช้ยังไง วางประโยคยังไง (Sentence Structure) ถ้าเข้าใจเเล้วอาจทำให้เราอยากเรียนเพิ่มอีกหลายภาษาเลย มันไม่เกินความสามารถเราแน่นอนเพราะภาษาไทยยากกว่ามากจ๊ะ
• มีเป้าหมายในการเรียนด้วย เราอยากพูดได้ เขียนได้ระดับไหน บางคนต้องการแค่สื่อสารได้ก็โอเคแล้ว บางคนอยากฟังออกจะได้ backpack ไปเที่ยว บางคนอยากได้ทุนเพื่อเรียนต่อ หรือบางคนอยากย้ายประเทศ การมีเป้าหมายจะทำให้เรามีกำลังใจ มีพลัง และมีความสุขในการเรียนรู้
• มีความมั่นใจ การเรียนภาษาต้องมีความมั่นหน้า (ถามคนเรียนภาษาดูซิ) เพราะเราจะพลาดก่อนที่จะได้มาในสิ่งที่เราต้องการ เราต้องมีความมั่นใจที่จะไม่หยุดเรียนรู้ในทุกครั้งที่พลาด
• ฝึกใช้อยู่เสมอ ภาษาหากเรียนแล้วไม่ได้ใช้มันก็ขึ้นสนิมนะ ควรมีวันภาษาแห่งชาติให้ตัวเอง กลายร่างเป็นคนจีน หรือฝรั่งบ้าง คุยภาษาอื่นทั้งวันไปเลย แล้วเราจะขอบคุณตัวเองสำหรับความกล้านี้
• ทุกภาษามี dynamic ของมันเอง ที่เราไม่สามารถฝึกคนเดียวได้ คือเราไม่สามารถที่จะถามเองตอบเอง คุยกับตัวเองตลอดไป เราต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ช่วยฝึก แล้วเราจะเริ่มสนุกที่ได้พูดกับคนต่างชาติ ตื่นเต้นกับการคุยเรื่องใหม่ ๆ แทนที่จะกลัวจนเหงื่อออกมือ และนั่นคือสัญญาณที่ยอดเยี่ยมในการเรียนภาษา !
โลกนี้แสนกว้างใหญ่ สิ่งที่จะพาเราไปทุกที่ได้ไม่ใช่แค่เงินในกระเป๋าหรือนามสกุลดัง แต่เป็นความสามารถที่จะพังทลายกำแพงแห่งภาษาลงได้ ภาษาไหนก็ดีหมด ขอแค่เราสนใจจะเรียนรู้ You live a new life for every new language you speak!