เมื่อตัดสินใจที่จะซื้อโครงการบ้าน ทาวน์โฮม หรือว่าคอนโดมิเนียมแล้ว การวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบนั้นคือสิ่งจำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นตามมา ทั้งเรื่องของการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน, การเตรียมเงินดาวน์, เงินสำหรับการซื้อเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งที่อยู่อาศัย และยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในวันดังกล่าวถือว่าเป็นเงินอีกก้อนที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องตกลงกันให้ดี บางส่วนเป็นภาระโดยตรงของผู้ซื้อและบางส่วนเป็นภาระของผู้ขาย โดยแยกออกเป็นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
สำหรับค่าจดจำนองที่ผู้ซื้อจะต้องจ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์นั้น จะอยู่ที่ 1% ของยอดเงินกู้ โดยไม่ได้คิดจากราคาซื้อขายคอนโดหรือบ้านใหม่แต่อย่างใด เช่น ในการซื้อโครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคา 5.3 ล้านบาท โดยผู้ซื้อกู้เงินจากธนาคาร 4 ล้านบาทและจ่ายเงินสด 1.3 ล้านบาท ก็จะเสียค่าธรรมเนียมการจดจำนองเฉพาะในส่วน 4 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มีการลดหย่อนค่าธรรมเนียมส่วนนี้ลงเช่นกัน สำหรับบ้านและที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 0.01% ซึ่งทำให้ภาระในเรื่องของค่าใช้จ่ายของผู้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยลดลงได้อย่างมากเช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้ผู้ซื้อส่วนใหญ่นั้นตัดสินใจที่จะโอนกรรมสิทธิ์ให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 24 ธันวาคม 2563 เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐในครั้งนี้ เพราะหากทอดเวลาตัดสินใจออกไปจนถึงปี 2564 ซึ่งไม่มีมาตรการดังกล่าวใช้แล้ว ผู้ซื้อและผู้ขายก็จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยอีกมากทีเดียว นั่นจึงทำให้ตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมในกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงมีการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะซบเซาหนักในปี 2563 ก็ตาม
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโอนบ้านได้ที่นี่เลย https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน-คอนโด-ทาวน์โฮม-เรื่องสำคัญที่ต้องรู้/th