นักจิตวิทยากล่าวว่า การอกหักคืออาการบาดเจ็บทางใจชนิดหนึ่ง (Trauma) ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ของเราทำให้เกิดความรู้สึกช็อค ในขั้นนี้เราจะมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว เริ่มคิดแง่ลบ กล่าวโทษตัวเอง รู้สึกสูญเสียอย่างมาก บางรายอาจจะเริ่มจากการรับไม่ได้ โกรธเขา แล้วก็มีความคิดอยากจะขอให้เขากลับมา ไปจนถึงซึมเศร้า ก่อนที่จะยอมรับได้ว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เราเจ็บน้อยลงหรือยอมรับได้เร็วขึ้น ก็คือการได้ระบายความรู้สึกที่เรามีออกไป เขียนมันลงไปเพื่อให้เราสบายใจขึ้น มีอะไรที่อยากจะพูด อยากจะบอกเขาเป็นครั้งสุดท้าย เขียนเสร็จแล้วจะเผามันทิ้งไปเลยก็ได้
การลืมใครสักคนมันยากกกก และต้องใช้เวลา ไม่มีใครสามารถที่จะกดสวิตซ์ ‘ลืม’ ใครสักคนได้ทันที ทันใด แต่เราสามารถ ‘ลดความสำคัญ’ ของใครสักคนได้ทันที การเลิกกันที่สมบูรณ์แบบก็คือการที่เรายอมรับว่าเขาเป็นแฟนเก่าที่เราจะไปคิดถึงเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว จากที่เขาเคยอยู่ลำดับที่ 1 ของชีวิตเรา ก็ต้องลดลำดับของเขาลงมา แล้วมันจะทำให้เราเริ่มจัดลำดับความสำคัญใหม่ในชีวิตได้ อย่างการสลับเอาครอบครัว เพื่อน การเรียน ขึ้นมาเป็นความสำคัญหลัก ท้ายที่สุดแฟนเก่าก็จะถูกลดลำดับลงไปเองโดยอัตโนมัติ จนสุดท้ายก็หมดความสำคัญไปเอง
ทุกการอกหักมีเรื่องให้เราต้องลงทุน ! เพราะถ้าคิดว่าเดี๋ยวก็ลืมเขาได้เองอาจจะเป็นชาติหน้าตอนบ่าย ๆ ดังนั้น เราต้องแก้เกมด้วยการหาอะไรทำเพื่อให้เราไม่หมกมุ่น หันไปลงทุนกับสิ่งที่จะทำให้เราหลุดออกไปจากความเคยชินที่มีเขาให้เร็วที่สุด ว่ากันว่าคนเราต้องการอยู่ไม่กี่อย่างในชีวิต นั่นคือ ความรัก ความอบอุ่น ความรู้ และความสำเร็จ ถ้าตอนนี้ความรักมันยังไม่มา เราก็สามารถที่จะขยับไปฟินกับอย่างอื่นก่อนได้ เช่น เราอาจจะเริ่มลงทุนกับความรู้ด้วยการลงเรียนสิ่งที่สนใจ ลองหางานอดิเรกใหม่ ๆ ฯลฯ ไม่แน่ว่าเราอาจจะมีความสุขมากขึ้น รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้นจากการโดนเทครั้งนี้ก็ได้
เป็นการเอาตรรกะเข้ามาฟาดตัวเองแรง ๆ เพราะถ้าหากเราปล่อยให้ตัวเองลอยไปกับอารมณ์อย่างเดียวมันคงน่าเสียดาย เพราะในทุก ๆ ความสัมพันธ์ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มันต้องมีสิ่งที่เราทำแล้วเวิร์ค สิ่งที่เราทำแล้วมันไม่เวิร์ค เพื่อให้ความสัมพันธ์ครั้งหน้ามันดีกว่าเดิม ลองถามตัวเองดูว่า
• สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์ครั้งนี้ เช่น 'เวลา' ไม่ใช่สิ่งการันตีว่าความสัมพันธ์จะไปรอด คบกันมานานก็ใช่ว่าจะไปกันรอด หรือถ้าเขาไม่ชัดเจนกันเรา เราก็ไม่ควรจะคบกับเขา เป็นต้น
• สิ่งที่เราได้ทำลงไปในความสัมพันธ์ครั้งนี้และจะไม่ทำอีก เช่น เราชอบโกหกว่าไม่มีอะไรทั้งที่มีอะไร เราชอบใช้อารมณ์ ชอบโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นต้น
• สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ในตัวคนรัก เช่น เราต้องการคนที่เป็นผู้ใหญ่ ให้เกียรติเรา มีเหตุผล ไม่งี่เง่า มีเป้าหมาย รักที่เราเป็นเรา เข้ากับเพื่อนเราได้ เป็นต้น
• สิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองตอนที่อยู่กับแฟนเก่า เช่น เราไม่ชอบที่ตัวเองต้องยอมเขาตลอดทั้งที่เขาผิด ยอมให้เขาเอาเปรียบ เราชอบเงียบเวลาทะเลาะ เป็นต้น
เวลาอกหัก โดนเท เราไม่ได้แค่เสียคนที่เราชอบไป แต่เรายังจะต้องมานั่งเสียใจกับความรู้สึกที่ไม่ได้รับการตอบสนองอีกด้วย เช่น จากที่เคยมีคนคุยปรับทุกข์สุข เราก็จะไม่มีอีกแล้ว จากที่เคยคอลไลน์คุยกันทุกวัน มีคนถ่ายรูปให้เวลาไปคาเฟ่ก็จะไม่มีอีกแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบางคนเขาถึงมูฟออนไปมีคนใหม่ได้เร็ว เพราะเขาต้องการคนที่จะมาช่วยให้ความรู้สึกขาดมันเต็มเหมือนเดิมนั่นเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะมูฟออนเร็ว ถ้าเรามั่นใจว่าเขาดีกว่า ทำให้เราใจเต้นแรงได้ ก็อย่าปิดกั้นตัวเองให้ได้รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ครั้งใหม่ หรือบางคนอาจจะค้นพบว่า ตัวเราเองนี่แหละคือความมหัศจรรย์ของตัวเองไม่ใช่คนอื่น