ความหมาย: ประโยคนี้จะมีสองความหมาย หมายถึงคุณเป็นดั่งพระอาทิตย์และฉันเป็นพระจันทร์ของคุณ
เพราะหากพระจันทร์ขาดแสงจากพระอาทิตย์ไปก็ไร้ซึ่งตัวตน แต่อีกความหมายก็แปลว่ารักแบบไม่คาดหวัง
เพราะพระอาทิตย์และพระจันทร์ไม่สามารถขึ้นมาเคียงคู่ในเวลาเดียวกันได้ (เศร้าไปอีก)
ความหมาย: แม้จะมีคนอื่นที่ดีกว่ามาก แต่เขาก็อยากได้คุณไปครอง ไม่ใช่คนอื่น
ความหมาย: to be over the moon เป็นคำที่มีความหมายเดียวกับ to be happy
แต่ใช้ในกรณีพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เช่น ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง กำลังจะแต่งงานหรือหมั้น หรือรักใครมาก ๆ
ความหมาย: ประโยคนี้มาจากหนังสือนิทาน Guess How Much I Love You ของ Sam McBratney
แปลว่า รักมาก เอาไว้ใช้เวลามีคนถามว่ารักมากแค่ไหน
ความหมาย: ประโยคนี้มาจากหนังสือนิทาน Guess How Much I Love You ของ Sam McBratney
เป็นคำบอกรักที่ใช้ตอบกลับประโยค “I love you right up to the moon” เวลาใครสักคนบอกว่ารักคุณมากเท่าจากตรงนี้ไปดวงจันทร์
แต่คุณรักเขามากกว่าเท่าจากตรงนี้ไปดวงจันทร์แล้วกลับมาตรงนี้อีกรอบ
ความหมาย: เหมือนปรากฏการณ์ blue moon ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ตามสถิติแล้วจะเกิดให้เห็นปีละ 2 ครั้งในทุก ๆ 19 ปี หรือไม่เกิดขึ้นเลยก็มี
เพราะฉะนั้นถ้าใครบอกว่ารักด้วยคำว่า once in a blue moon ก็แปลว่าเขารักคุณจริง ๆ นะ ไม่เคยรู้สึกรักใครแบบนี้มาก่อนเลย
*สำนวน once in a blue moon ออกข้อสอบบ่อยมากด้วยนะ
ความหมาย: เขาเปรียบคุณเป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิต เพราะพระจันทร์ยังคงส่งแสงสว่างได้แม้ท้องฟ้าจะมืดแค่ไหนก็ตาม
คำนี้เอามาจากหนังสือ When the Moon Forgot ของ Jimmy Liao
ความหมาย: พระจันทร์มี 2 ด้าน คือ ด้านที่สว่างและมืด เปรียบเหมือนคนเราที่ต้องมีทั้งด้านที่ดีและแย่
คนที่รักเราจริง ๆ คือคนที่รับทั้งด้านที่ดีและแย่ของเราได้นั่นเอง
ความหมาย: many moon ago แปลว่า นานมาแล้ว นานมามาก ๆ แล้ว และเป็นสิ่งที่ผ่านมานานแล้วในอดีต
ดังนั้นคำนี้จะอยู่ที่บริบทล้วน ๆ เขาอาจจะพูดบอกว่ารักเรามานานแล้วและตอนนี้ก็รักอยู่
หรืออาจจะแปลว่ารักเรามานานแล้ว แต่ตอนนี้เลิกรักไปแล้วก็ได้