‘สิว’ นั้นเป็นปัญหาให้คนปวดหัวมาตั้งนานแล้ว มีบันทึกไว้ว่า สิวมีมาตั้งแต่สมัยกรีก-โรมัน และอียิปต์เป็นต้นมา เพราะแม้แต่ในหลุมฝังศพของฟาโรห์ตุตันคาเมนแห่งอียิปต์ที่มีสมบัติและทรัพย์สินมีค่ามากมายยังมียาทาสิวฝังรวมอยู่ด้วย !
คำว่า 'สิว' หรือที่เราเรียกว่า ‘acne’ มาจากคำว่า ‘acme’ ในภาษากรีกแปลว่า จุด กระ หรือคราบ โดยก่อนที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะค้นพบสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้เกิดสิว มนุษย์ในสมัยโบราณ (ฝั่งยุโรป) เคยมีความเชื่อแปลก ๆ เกี่ยวกับสิวและการรักษาสิวมากมายในอดีตกาล เช่น
• ชาวอียิปต์เชื่อว่าสิวเกิดจากการพูดโกหก
• ชาวโรมันเชื่อว่าถ้าใช้ผ้าเช็ดสิวตอนดาวตก สิวจะตกออกไปจากหน้าด้วย
• รัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธแห่งอังกฤษเชื่อว่าสิวเกิดจากมนต์ดำของแม่มด (Witchcraft) เพื่อที่จะทำลายใบหน้าของหญิงสาวในยุคที่การปรากฏตัวของผู้หญิงเริ่มถูกให้ความสำคัญ
• คนสมัยก่อนเชื่อว่า เมื่อกดสิวสิ่งที่ออกมาคือหนอนแมลงชนิดหนึ่ง (a maggot) แต่ความจริงแล้วมันคือก้อนไขมันจากรูขุมขนต่างหาก
• ในสมัยปี ค.ศ.1638-1648 มีความเชื่อว่า สิวเกี่ยวข้องกับประจำเดือนและคนที่มีความรักซึ่งเป็นความเชื่อที่น่าจะใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุด
ก่อนที่เราจะมีบิวตี้บล็อกเกอร์และคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาผิวผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ชาติแรกที่เริ่มออกมาพูดถึงการรักษาสิวคือ ชาวโรมันโบราณ โดยนิยมผสมกำมะถัน (Sulfur) ลงในอ่างอาบน้ำแร่ (Mineral baths) เพื่อรักษาสิว ซึ่งวัยรุ่นในยุคนั้นฮิตลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำที่ผสมด้วยกำมะถันเพื่อรักษาสิว แต่ต่อมาในศตวรรษที่ 4 ก็มีความเชื่อว่า ให้เช็ดสิวด้วยผ้าระหว่างที่ดูดาวตก แล้วสิวมันจะหลุดออกไปจากหน้าเหมือนดาวที่ตกจากฟ้า
ในส่วนของคนกรีกและคนอียิปต์จะทันสมัยขึ้นมาหน่อย เพราะนิยมรักษาสิวด้วย ‘น้ำผึ้ง’ โดยมีนักปรัชญากรีกบางคนที่สนใจศึกษาเรื่องสิว แนะนำว่าให้ใช้น้ำมันหอมระเหย (Galbanum) และโซดาเทลงไปผสมกับน้ำส้มสายชูและน้ำผึ้ง เพื่อที่จะทำให้สิวหายไป นอกจากนั้นก็ยังมีคนเชื่อว่า ผักชีฝรั่งบดสามารถรักษาสิวได้เหมือนกัน (แต่ความจริงแล้วผักชีฝรั่งบดใช้รักษาแผลสดต่างหาก)
ส่วนในประเทศไทยเราในสมัยอยุธยาตอนปลาย เครื่องสำอางและสกินแคร์คู่บ้านในสมัยนั้นก็คงหนีไม่พ้น ‘แป้งร่ำ’ หรือ ‘ดินสอพอง’ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่อยากทำเครื่องหอมขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน ชาวบ้านจะใช้ดินสอพองมาทา ทา ทาเพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด บำรุงผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำ และยังช่วยป้องกันการระคายเคืองจากสิวและผดผื่นได้ด้วย
แต่บางตัวอย่างของการรักษาสิวในอดีตที่ผิดไปมากและสะเทือนใจที่สุดเลยก็คือ หลักฐานการบันทึกของ Robert Caro’s biography of Lyndon B. Johnson คือเคยมีว่าที่ประธานาธิบดีคนหนึ่งได้ทดลองใช้ ‘ขี้วัว’ พอกไปที่หน้าของคนที่เป็นสิวเห่อมาก ๆ เพื่อจะดูว่าขี้วัวสามารถรักษาสิวได้หรือไม่ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดออก ถ้าเป็นสมัยนี้เราคงได้แต่ร้องจ๊ากว่าไม่เป็นไรจ้าาา อย่าหาทำเลย
สุดท้ายแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตก็อาจะเป็นเครื่องเตือนใจให้เราดูแลผิวหน้าด้วยวิธีที่เหมาะสมกับยุคสมัย และอย่าไปหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีองก์กรที่น่าเชื่อถือมารองรับ และเราขอเป็นกำลังใจให้คนที่เป็นสิวมีสติและสู้ต่อไปกับการรักษาผิวหน้าอย่างถูกวิธีน๊าาา
บทความที่เกี่ยวข้อง
กินอะไรแล้วสิวไม่ขึ้น ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง สิวหายเร็วขึ้น !
วิธีลดอาการบวมแดงของสิวอักเสบให้ดีขึ้นภายใน 24 ชม.
กินอะไร นอนกี่โมง เพื่อให้ผิวสวยสุขภาพดี มีออร่าแบบสาวเกาหลี
แหล่งข้อมูล
- A Comprehensive Review of Acne Vulgaris
- Acne Treatment Used to Include Poisoning Yourself a Lot