"ความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ โดยให้ปฏิบัติด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่และต่อเนื่อง
ให้ทำด้วยความสันโดษและตั้งใจลดละอย่างแท้จริง
ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่เข้าใจถ่องแท้ถึงความจริงที่ว่า ตัวเราไม่มี ก็ให้ถือว่าในการปฏิบัตินั้นเราทำเพื่อเป็นการปฏิบัติบูชา มิใช่ปฏิบัติเพื่อตนเอง
ให้มีความซื่อสัตย์ทั้งกาย วาจา ใจ"
หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย วัดป่าโคกหม่อน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ท่านเคยเล่าว่า
ครั้งหนึ่งมีชายขี้เหล้าเมายา เดินมาถามท่านว่า
" ถามจริงๆ ชาติหน้ามีจริงไหม ? ถ้ามี พาผมไปดูหน่อย ฮ่าๆๆ "
หลวงปู่ท่านก็เลยถามชายคนนี้กลับคืนไปว่า
" แล้ววันพรุ่งนี้ มีจริงไหม ? ถ้ามีพาหลวงพ่อไปดูหน่อย "
ชายขี้เมาได้ฟังถึงกับนิ่งเงียบ ดูเหมือนกับจะไม่ค่อยพอใจหลวงปู่ แล้วลากลับออกจากวัดไป ผ่านไปประมาณ 3-4 วัน ชายคนนี้ได้กลับมาอีกครั้งบอกว่า "ผมอยากบวช"
ตั้งแตวันนั้นเป็นต้นมา ชายผู้ที่ว่านี้ก็ได้บวชเรียนอยู่กับหลวงปู่ประมาณ 5 ปี แล้วก็ออกเดินธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ จนถึงตอนนี้ยังไม่ลาสิกขาเลย
"...ทางในวัฏฏสงสารมันไกลมากสำหรับผู้อ่อนแอ
สำหรับผู้ที่เข้มแข็งเขามีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา สมบูรณ์ สมดุลแล้ว เขาก็เดินไปได้ไม่ไกล
สำหรับคนที่ไม่มีพละกำลังไม่สม่ำเสมอ หนทางในวัฏฏะนั้นไกลมาก..."
หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ,หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านถือกำเนิดตรงกับวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๔๖๗ ที่บ้านเฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เลือดเนื้อเชื้อสายแขมร์ สะเร็น เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ครอบครัวประกอบอาชีพปักดำทำนาไร่
เมื่อท่านอายุได้ ๓๐ ปี ท่านได้ไปกราบหลวงปู่สาม อากิญฺจโน ณ วัดป่าไตรวิเวก และหลวงปู่สาม ได้พาหลวงปู่เอียน ไปบวชอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่วัดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และจำพรรษาอยู่ที่วัดเจริญสมณกิจ(หลังศาล) จ.ภูเก็ต อยู่ ๑ พรรษา จากนั้นจึงตามไปสมทบกับกองทัพธรรมพระกัมมัฏฐานทางภาคใต้ อยู่วิเวกปฏิบัติธรรมในที่ต่าง ๆ
ใน ปี พ.ศ.๒๕๐๕ ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และได้ออกธุดงค์วิเวกมาเรื่อยจนถึง จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จนกระทั้งปี พ.ศ.๒๕๑๘ โยมแม่ท่านได้ขอร้องให้กลับมาอยู่ จ.สุรินทร์ ไม่ต้องออกเดินธุดงค์อีก ท่านจึงรับปาก แล้วใช้ป่าละเมาะในเขตบ้านโคกหม่อน ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นที่ภาวนาเรื่อยมาจนสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมดั่งเป็นวัดอย่างเช่นทุกวันนี้
"...ทางในวัฏสงสารมันไกลมากสำหรับผู้อ่อนแอ สำหรับผู้ที่เข้มแข็งเขามีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา สมบูรณ์ สมดุลแล้ว เขาก็เดินไปได้ไม่ไกล สำหรับคนที่ไม่มีพละกำลังไม่สม่ำเสมอ หนทางในวัฏฏะนั้นไกลมาก..." โอวาทธรรมคำสอนของหลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย วัดป่าโคกหม่อน ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่ให้ไว้กับคณะท้องถิ่นธรรม ในวันเสาร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ หลวงปู่เอียน พระมหาเถระผู้อาวุโสในเขตอีสานใต้ ในวันที่ ๑ สิงหาคมนี้ หลวงปู่เอียน จะมีอายุครบ ๙๓ ปี หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ,หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านถือกำเนิดตรงกับวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๔๖๗ ที่บ้านเฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อท่านอายุได้ ๓๐ ปี ท่านได้ไปกราบหลวงปู่สาม อากิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก และหลวงปู่สาม ได้พาหลวงปู่เอียน ไปบวชอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่วัดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และจำพรรษาอยู่ที่วัดเจริญสมณกิจ(หลังศาล) จ.ภูเก็ต อยู่ ๑ พรรษา จากนั้นจึงตามไปสมทบกับกองทัพธรรมพระกัมมัฏฐานทางภาคใต้ อยู่วิเวกปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆ ปี พ.ศ.๒๕๐๕ ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และได้ออกธุดงค์วิเวกมาเรื่อยจนถึง จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จนกระทั้งปี พ.ศ.๒๕๑๘ โยมแม่ท่านได้ขอร้องให้กลับมาอยู่ จ.สุรินทร์ ไม่ต้องออกเดินธุดงค์อีก ท่านจึงรับปาก แล้วใช้ป่าละเมาะในเขตบ้านโคกหม่อน ซึ่งแต่เดิมเป็นที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นที่ภาวนาเรื่อยมาจนสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมดั่งเป็นวัดอย่างเช่นทุกวันนี้
Posted by เฉลิมชัย จารุพัฒนเดช on Tuesday, 25 July 2017