ลักษณะหูฟังแบบ In-Ear
มาพร้อมจุกสวมใส่ 3 ขนาด โดยจะเป็นสัมผัสนุ่ม ๆ เวลายัดเข้าหู แต่บางคนอาจไม่ชอบหูฟังลักษณะนี้
มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก
ทำให้ฟังเสียงเพลงได้ชัดเจนกว่า ไม่มีเสียงข้างนอกมารบกวน แต่หากเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้จะทำให้แบตเตอรี่หมดไวกว่ารุ่นธรรมดาประมาณ 30 นาที
กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IPX4
สามารถโดนละอองน้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ กันเหงื่อเวลาออกกำลังกายหรือใส่อาบน้ำก็ได้ มีความทนทานกว่ารุ่นธรรมดาหน่อยนึง
1. ไฟสถานะที่เคส
ไฟสีต่าง ๆ ที่เคสนั้นมีความหมายต่างกันออกไป
สีเขียว คือชาร์จไฟเต็มแล้ว
สีเหลือง คือชาร์จไฟยังไม่เต็ม หรือกำลังชาร์จอยู่
สีเหลืองกะพริบ ให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อหรือต้องตั้งค่าใหม่
สีขาวกะพริบ พร้อมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แล้ว
2. การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์
เมื่อเปิดฝาเคส Airpods โดยที่อยู่ใกล้ ๆ กับอุปกรณ์แล้วกดปุ่มหลังเคสค้างไว้จะทำการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ หรือเราสามารถเชื่อมต่อแบบแมนนวลได้จาก control center หรือ setting bluetooth
3. หยุดเพลงอัตโนมัติ
ตัวหูฟังจะมีเซ็นเซอร์ที่สามารถจับความเคลื่อนไหวของเราได้ ถ้าถอดหูออกเพลงจะหยุดโดยอัตโนมัติ และเล่นต่อเมื่อใส่หูกลับเข้าไป ถือเป็นฟังก์ชันที่สะดวกสบายมาก และใช้ได้กับการคอลเช่นกัน
4. แตะหูฟังเพื่อใช้คำสั่งต่าง ๆ
สามารถแตะที่ตัวหูฟังสองครั้ง เพื่อเปลี่ยนเพลง ข้ามเพลง ย้อนกลับ ฯลฯ ตามแต่จะตั้งค่าได้ รวมถึงเมื่อมีสายโทรเข้ามาก็สามารถแตะหูฟังสองครั้งเพื่อรับสายได้ และยังตั้งค่าให้สิริอ่านชื่อคนที่โทรเข้าให้เราฟังได้อีกด้วย
5. เช็คแบตเตอรี่
เช็คแบตเตอรี่ของหูฟังได้ง่าย ๆ ในหน้า widget Today view ที่หน้าแรก (จะแสดงแบตของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ทั้งหมด) หรือจะถามจากสิริก็ได้ อีกวิธีคือตอนเปิดฝาเคส บนหน้าจออุปกรณ์ของเราจะโชว์ค่าแบตที่เหลืออยู่ให้ดู
6. ใช้หูฟัง 2 ตัวกับเครื่องเดียว
ใน iOS 13 เราสามารถแชร์เพลงที่ฟังหรือเสียงจากเครื่องให้หูฟังอีกอันของเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ ได้ ด้วยเฟีเจอร์ Audio Sharing ซึ่งก็คือการเชื่อมต่อหูฟัง 2 ตัวได้พร้อมกันกับอุปกรณ์เครื่องเดียวนั่นเอง
1. เซ็นเซอร์ใช้งานแบบแรงบีบ
สำหรับรุ่นโปรนี้จะสามารถตรวจจับการแตะหูฟังได้หลากหลายกว่า โดยนอกจากแตะครั้งเดียว แตะสองครั้ง ยังมีการกดหรือบีบโดยลงน้ำหนักได้ด้วย ทำให้สามารถตั้งค่าคำสั่งได้หลากหลายกว่า และยังสามารถปรับเปลี่ยนระยะเวลาหรือความแรงในการกดตามความถนัดของเราได้ด้วย
2. วิธีถอดหูออกจากเคสชาร์จ
โดยปกติเมื่อหูฟังอยู่ในตัวเคสจะใส่ได้แน่นพอดี การดึงออกตรง ๆ นั้นทำได้ลำบาก ให้ดันหูฟังเข้าหาตัวเราเล็กน้อย หูฟังจะเด้งหลุดออกมาจากช่องเก็บได้อย่างง่ายดาย
3. เปิดระบบตัดเสียงรบกวน
สำหรับการสลับโหมดเปิดปิดระบบตัดเสียงรบกวนนั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยกดที่ก้านหูฟังค้างไว้ เพียงเท่านี้ก็เลือกใช้งานได้ตามต้องการเวลาอยากฟังเพลงหรือยังอยยากได้ยินเสียงายนอกอยู่ด้วย