Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ที่มาและความเป็นไปของรองเท้ากีฬา adidas ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

Posted By ChinJungGu | 18 ส.ค. 63
350 Views

  Favorite
.

                    ต้องยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้เทรนด์ในการออกกำลังกายด้วยการวิ่งยังมาแรงไม่หยุด เพราะสาว ๆ สมัยใหม่หันมารักสุขภาพและให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายกันมากขึ้น ซึ่งของใช้ที่สำคัญสำหรับการวิ่งก็คงหนีไม่พ้นรองเท้าที่ต้องใช้สำหรับวิ่งนั่นเอง เพราะรองเท้าวิ่งไม่ได้แค่ช่วยให้การวิ่งของเราสะดวกสบายเท้าขึ้น แต่มันเป็นการช่วยพยุงข้อเท้าของเราแถมลดการบาดเจ็บที่มักจะเกิดตอนวิ่งได้อีกด้วย โดยรองเท้าที่ได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายแบรนด์มาก และหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้น ๆ ก็คือรองเท้ากีฬา adidas ที่มีความเป็นมาที่น่าสนใจรวมไปถึงเรื่องคุณภาพที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีข้อดีด้านอื่น ๆ อีกเพียบ ซึ่งจะมีอะไรอีกบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ

                   ที่มาและความเป็นไปของรองเท้ากีฬา adidas ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

1. มีประวัติก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่

ADIDAS อาจจะไม่ใช่แบรนด์เกี่ยวกับกีฬาที่เก่าแก่ที่สุด แต่ไม่มีแบรนด์ไหนที่ทรงอิทธิพลมาได้นานขนาดนี้ เพราะถึงแม้แบรนด์ ADIDAS จะก่อตั้งในปี ค.ศ. 1949 แต่โรงงานรองเท้าของพี่น้อง Dassler (ผู้ก่อตั้ง ADIDAS) นั้นมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 แล้ว! นานมาก ประวัตินี่เยอะมาก

2. ความใส่ใจของเจ้าของแบรนด์

ลองคิดตามดูนะ ตลอดชีวิตของ Adi Dassler เขาต้องการที่จะสร้างอุปกรณ์ทางด้านกีฬาที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาเป็นทั้งช่างซ่อมรองเท้าและเป็นนักกีฬา จึงไม่มีเจ้าของแบรนด์รองเท้าไหนที่จะเข้าใจความต้องการของนักกีฬาได้เท่าเขาอีกแล้ว เขาสามารถค้นพบข้อเสียต่าง ๆ และปรับปรุงแก้ไขมันด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว เขามุ่งมั่นและจริงจังกับมัน และผลลัพธ์ที่ได้นั้นเรียกได้ว่าเกินกว่าความประทับใจ ADIDAS ที่ได้เห็นในวันนี้คือจิตวิญญาณของ Adi Dassler นั่นเอง

3. เรื่องราวของ “ปาฏิหาริย์แห่งกรุงเบิร์น”

ประเทศเยอรมนีที่กำลังเป็นผู้เสียเปรียบในการแข่งขัน World Cup นั้น ได้รับความมั่นใจและพลิกกลับมาเอาชนะถ้วย FIFA ในปี ค.ศ. 1954 ได้ เป็นเพราะรองเท้ากีฬาที่มาจากความทุ่มเทของ Adi Dassler ราวกับเครื่องรางแห่งชัยชนะเลยก็ว่าได้

4. ที่มาของสัญลักษณ์แถบ 3 เส้น

แต่เดิมนั้น แถบ 3 เส้นเอาไว้พยุงรองเท้าเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการใช้งานเฉยๆ ไม่เกี่ยวกับการตลาดหรือการออกแบบเพื่อความสวยงามใด ๆ เหลือเชื่อไหมล่ะ ว่าจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์อันโด่งดังในที่สุด

5. เป็นแบรนด์สุดคลาสสิก

หลายสิบปีก่อนที่ NIKE จะออกรองเท้าวิ่งรุ่นแรก ADIDAS ได้คิดค้นรองเท้าและถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์รองเท้ากีฬาไปแล้วเรียบร้อย โดยรุ่นคลาสสิกแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Gazelle, Superstar และ Samba นั้นออกมาก่อนที่ NIKE จะก่อตั้งอย่างเป็นทางการเสียอีก และในปัจจุบันก็มีการพัฒนาจากรุ่นเก๋า ๆ ต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ แบบไม่หยุดยั้ง

6. แถบ 3 เส้นที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ถ้ามองย้อนไปในช่วงยุค 1930 นักวิ่งชาวอเมริกันอย่าง Jesse Owens ชนะ 4 เหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิคปี ค.ศ. 1936 ด้วยรองเท้าของ Adi Dassler และมากกว่า 78% ของนักกีฬาที่ลงแข่งในปี ค.ศ. 1972 ล้วนแล้วแต่ใส่ ADIDAS และเพิ่มจำนวนถึง 89% ในปี 1984 อะไรจะขนาดนั้น!

7. ไม่ใช่แค่ดังในวงการกีฬา แต่วงการเพลง HIP-HOP ก็ด้วย

คนดังมากมาย รวมถึงวง Run DMC และ Beastie Boys ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ ADIDAS ตั้งแต่ปกอัลบั้ม เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่ เพลงดังอย่าง “My Adidas” หรือแม้กระทั่งตอนที่วง RUN DMC โชว์รองเท้า ADIDAS ต่อหน้าคนดู 40,000 กว่าคนในคอนเสิร์ตของพวกเขา ทำให้ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองโดยไม่ต้องสงสัย

8. ADIDAS มี KANYE WEST

ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมายสำหรับประเด็นนี้ Kanye West ถือว่าเป็นศิลปินคนหนึ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการเพลงขณะนี้ เขาทำให้รองเท้า ADIDAS เป็นที่ต้องการของผู้คนมากมาย ถึงแม้ Yeezy ที่ออกมาจะไม่มีแถบ 3 เส้นก็ตาม

9. มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาเสมอ

รองเท้ารุ่น boost ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ในเรื่องของความนุ่มสบายเวลาสวมใส่ รวมถึง NMD ที่ประสบความสำเร็จในด้านการออกแบบรองเท้าอย่างมากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้

                     หากใครที่อยากจะลองเลือกซื้อรองเท้าวิ่งคู่แรกสักคู่ ลองเก็บรองเท้ากีฬา adidas ไว้อีกสักหนึ่งตัวเลือกก็ดีนะคะ เพราะนอกจากจะมีหลากแบบหลายแนวให้เลือกแล้ว ยังมีความเป็นมาที่ดูดีและยังมีคุณภาพที่สูงซึ่งมีผลดีต่อการนำไปใช้งาน เอาเป็นว่าถ้าคุณได้ลองใช้งานแล้วจะรู้สึกดีอย่างแน่นอน

 

แหล่งข้อมูล
รองเท้ากีฬา adidas
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ChinJungGu
  • 1 Followers
  • Follow