แต่การเรียนในรูปแบบไหนที่เหมาะกับลูกของเรา วันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดี ของการเรียนทั้ง 2 แบบกันค่ะ
การเรียนออนไลน์ เป็นการเรียนที่เกิดขึ้นในสถานที่ส่วนตัว ที่พ่อแม่สามารถดูแล ควบคุมความสะอาดได้ ทำให้มีความมั่นใจได้ว่าลูกจะไม่มีภาวะเสี่ยงในการรับเชื้อจากผู้อื่น
เมื่อการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ที่บ้าน พ่อแม่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางออกไปข้างนอก
การเรียนออนไลน์ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาที่พ่อแม่สะดวก ขอเพียงแค่มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเรียนรู้ของลูกก็พอ
การเรียนรู้แบบ offline ทำให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์ และได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ได้เล่น ได้เรียนรู้ และทำกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมแค่การเรียนรู้ แต่ช่วยสร้างทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอีกด้วย
การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในโรงรียน จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย จากการได้ลงทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้สัมผัส ได้เห็นจากของจริง และเมื่อลูกได้ลงมือทำในกิจกรรมที่หลากหลาย ก็จะส่งผลให้ลูกเกิดทักษะที่หลากหลายเช่นกัน
การไปโรงเรียน ถือเป็นการสร้างวินัยและสอนให้ลูกได้เรียนรู้กฎเกณฑ์แบบง่าย ๆ ในชีวิต ลูกได้เรียนรู้เรื่องระเบียบวินัย เช่น การตื่นแต่เช้า การเข้าเรียนตามเวลา การปฏิบัติตามกฎระเบียบร่วมกันในโรงเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสร้างวินัยขั้นพื้นฐาน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกเติบโตขึ้น และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมต่อไป
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.