Sentences builder
การสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ (ตอนที่ 1)
Declarative sentences and words order
ประโยคบอกเล่าและลำดับที่ของคำ
ประโยคบอกเล่า (Declarative sentences) ในภาษาอังกฤษประกอบไปด้วยประธาน (subject) และส่วนขยาย (predicate)
คำกริยาในส่วนขยายจะถูกผันอย่างถูกต้องตามประธาน (subject) และตามกาล (tense) ที่กำหนด
Subject + predicate ประธาน + ส่วนขยาย
Mary + speaks English. แมรี่พูดภาษาอังกฤษ
ประโยคบอกเล่าสามารถมีคำนามเอกพจน์ (singular) หรือพหูพจน์ (plura) เป็นประธานได้ และสามารถถูกตามด้วยคำกริยาในกาลใดๆก็ได้ รวมถึงถูกตามด้วยคำขยายในประโยคได้ด้วยเช่นกัน เช่น
John repairs the car. จอห์นซ่อมรถ
The boys ran into the forest. เด็กผู้ชายวิ่งเข้าไปในป่า
ประโยคบอกเล่าต่อไปนี้ใช้คำสรรพนาม (pronoun) เป็นประธาน ซึ่งสามารถอยู่ในประโยคของกาลต่างๆได้
She has never been to England. หล่อนไม่เคยไปประเทศอังกฤษ ประธานสรรพนามเอกพจน์ กับคำกริยาในกาลปัจจุบันสมบูรณ์
We shall visit them soon. เราจะไปเยี่ยมพวกเขาเร็วๆนี้ ประธานสรรพนามพหูพจน์ กับคำกริยาในกาลอนาคต
เนื่องจากคำกริยาในภาษาอังกฤษสามารถแสดงในรูปแบบการกระทำที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์หรือกำลังกระทำ (เช่น he is going) หรือในบการกระทำที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว หรือแม้แต่ในการกระทำที่ทำประจำเป็นนิสัย (he goes) ซึ่งเมื่อกาล (tense) เปลี่ยน คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนกริยาให้สอดคล้องกับประเภทของกาล (tense) นั้น เช่น
He is going, he was going, he has been going
He goes, he went, he has gone เป็นต้น
การผันคำกริยาในภาษาอังกฤษมีข้อยกเว้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย แต่การใช้คำกริยาให้ถูกต้องตามกาลเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะ คุณต้องทำความเข้าใจความแตกต่างของคำกริยาที่ใช้ในกาลต่างๆ เหล่านั้น เช่น คำกริยาที่ใช้บรรยาย การกระทำที่กำลังเกิดขึ้นหรือคำกริยาที่บรรยายการกระทำที่เกิดขึ้นเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วหรือการกระทำที่เป็นนิสัยเหล่านั้น
(To be continued ; ตอนที่ 2 Incomplete actions การกระทำที่ยังไม่สมบูรณ์)