Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

[แปลภาษาอังกฤษ] ความผิดพลาดในการแปลภาษาอังกฤษที่คนไทยพบบ่อย

Posted By Eng Breaking | 16 ก.ค. 63
6,615 Views

  Favorite

ในสมัยนี้ ภาษาอังกฤษสำคัญมาก เป็นภาษาที่คนทั่วโลกมักจะเลือกใช้เป็นภาษาที่สองในการสื่อสาร การทำงาน ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตสะดวกมากขึ้น แต่บางทีก็มีผิดพลาดกันบ้างในการแปลความหมาย ด้วยความที่ยังไม่แน่นเรื่องของแกรมม่าหรือคำศัพท์ต่าง ๆ ดังนั้น บทความนี้ จะมาชี้ให้เห็นว่า ผู้เรียนภาษาอังกฤษ มักจะพลาดจุดไหนเมื่อต้องแปลภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทาง ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป

1. แปลแบบ word by word 

หรือที่เรียกว่าการแปลทีละคำ ซึ่งจะเหมาะกับประโยคสั้น ๆ และง่าย ๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจอประโยคยาว ๆ การแปลทีละคำจะทำให้เราไม่สามารถทราบความหมายทั้งประโยชน์ได้แบบถูกต้องและชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อทำข้อสอบภาษาอังกฤษ เช่น Toeic ถ้าใช้วิธีการแปลททีละคำ จะทำไม่ทันเวลาแน่นอน ดังนั้นสำหรับการแปลภาษาใดก็ตาม ควรใช้วิธีการแปลแบบจับคำศัพท์สำคัญ หรือแปลทั้งประโยชน์ เพื่อให้ได้ใจความที่สมบูรณ์

2. ใช้คำศัพท์ที่ไม่เหมาะสม

ในภาษาไทย บางทีเราจะเจอคำศัพท์ที่มีความหมายคล้ายกัน สามารถใช้แทนกันได้ แต่ในภาษาอังกฤษ เราต้องระวัง เพราะถึงจะเขียนเหมือนกัน ออกเสียงเหมือนกัน แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้แทนกันได้ เพราะจะทำให้ความหมายเปลี่ยนไป ดังนั้นก่อนแปลออกมา ต้องดูบริบทของประโยคให้ดี ดังเช่นคำว่า “Set” เป็นหนึ่งคำที่มีความหมายที่หลากหลาย ดังนั้นก่อนจะแปลประโยคนั้น ให้เช็กให้ดีก่อน ว่าคำแปลคำไหน ที่เหมาะกับรูปประโยคนี้

และเพื่อลดความผิดพลาด เราต้องฝึกทักษะการอ่านให้มากขึ้น เพื่อเรียนรู้และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ และการตั้งประโยคในการใช้คำต่าง ๆ ที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้การแปลถูกต้องด้วยเช่นกันนั่นเอง

3. ใช้ไวยากรณ์ผิด

ถ้าเราอยากแปลภาษาอังกฤษดีๆ เราจำเป็นต้องมีความรู้ไวยากรณ์พื้นฐาน เพราะภาษาเขียนจะต้องการความละเอียดกว่าภาษาพูด เมื่อเราพูดเราใช้ไวยากรณ์ผิด-ถูก 70-80% คนฟังก็สามารถเข้าใจว่าเราจะพูดอะไรได้แล้ว แต่ถ้าตอนเขียนเราใช้ไวยากรณ์ผิด ก็จะเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารตามมาอย่างที่มองเห็นได้ชัดเจนและแก้ไขได้บยาก ดังนั้นเพื่อลดความผิดพลาดเวลาแปลหรือเขียน ควรศึกษาและตรวจทานไวยากรณ์อีกครั้ง เพื่อการสื่อสารที่ถูกต้องและไม่มีปัญหาตามมา

ยกตัวอย่างเช่น

“Look! it rains” แปลว่า ดูสิตอนนี้ฝนตก ซึ่งหากอยากให้ประโยคสมบูรณ์และเข้าใจว่าฝนตกช่วงเวลาไหน และเป็นการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้อง ต้องเป็น “Look! it’s raining”  เพื่อบอกให้ชัดเจนว่า ดูสิ ตอนนี้ฝนกำลังตก ใช้ Present continuous เพื่อแปลความหมายออกมาให้ได้ชัดเจนที่สุด

ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ถ้าจะบอกว่าพี่สาวฉันอายุ 15 ปีเราต้องบอกว่า “My sister is 15 years old” ไม่ใช่ “My sister has 15 years” เเละไม่ใช่ My sister 15 years old 

หรือถ้าใช้ “Want” ตอนแปลประโยค ฉันอยากกลับบ้าน เราต้องแปลเป็น “I want to go home” ถ้าเราไม่ใช้คำว่า “to” คนอ่านยังเข้าใจแต่เขาน่าจะคิดว่าเราไม่ใช่มือโปรก็ได้นะ เพราะเราผิดในการใช้ไวยากรณ์พื้นฐาน

X3english แนะนำแนวทางการแก้ความผิดในการแปลภาษาอังกฤษ

4. ใช้ศัพท์เฉพาะทางมากไปทำให้เข้าใจยาก

ความผิดพลาดอีกข้อที่มักจะเจอบ่อยเมื่อแปลภาษาอังกฤษ คือการใช้คำศํพท์เฉพาะทาง ทำให้เข้าใจยาก เช่น การใช้ศัพท์เรียกชื่อสินค้า หรือการเรียกยี่ห้อผลิตภัณฑ์ ที่มีเฉพาะบริษัท ซึ่งหากมีความจำเป็นจะต้องใช้คำเหล่านี้ อาจจะต้องมีวงเล็บหรือคำอธิบายเพิ่มเติมประกอบ และที่สำคัญต้องดูให้เข้าใจว่าเนื้อหาที่ต้องการถ่ายทอดนั้น จะใช้สื่อสารกับกลุ่มไหน หากเป็นกลุ่มเฉพาะที่เข้าใจศัพท์ตรงกันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากเป็นบุคคลอื่น ก็จำเป็นอย่างมากที่ควรจะมีคำอธิบายประกอบ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นมาตรฐานเดียวกัน

5. ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษผิดกรณี

ความผิดที่เห็นได้ชัดและมักเจอได้บ่อย คือการเลือกใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษผิดกรณี ซึ่งบ่อย ๆ ที่เจอเลยคือการใช้คำที่ไม่เป็นทางการ หรือการใช้ศััพท์แสลง รวมไปถึงคำย่อส้น ๆ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายบางคำเป็นคำที่ใช้ติดปาก และสร้างความเข้าใจที่ผิดว่าเป็นคำที่ถูกต้องและสามารถใช้ได้ ทั้ง ๆ ที่ อาจจะไม่เหมาะเมื่อต้องนำมาใช้ในงานเขียนหรืองานแปล

ยกตัวอย่างระหว่างแปลประโยคเป็นภาษาอังกฤษถูกกับผิดดังนี้ ให้ผู้เรียนสังเกตเอง

ถ้าเราเขียนหนึ่งประโยคแบบนี้

If u want to know my opinion tho, IDK who should be Team leader.” บางคนอาจไม่เข้าใจคำว่า IDK หรือบางคนเข้าใจแต่ก็ตีความหมายผิดไป

ประโยคที่สมบูรณ์ต้องเป็น “If you want to know my opinion, I do not know who should be Team leader.” เราจะเข้าใจความหมายของประโยคคือ ถ้าคุณอยากทราบความคิดเห็นของฉันก็ไม่รู้ว่าใครควรจะเป็นหัวหน้าทีม


แปลภาษาอังกฤษด้วยตัวเองง่ายๆ กับเคล็ลับดีๆ มาจาก X3english  

6. ใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ผิด

เราจะเจอความผิดพลาดนี้บ่อยมากๆ ในตอนเขียนเมลส่งให้ลูกค้าต่างชาติ เช่น ถ้าอยากขอเรียนคุณ A เรามักจะเขียนเมล์ว่า Dear Mr. A: I…” แต่ความเป็นจริงคือเราต้องปรับเป็น “Dear Mr. A, I…” เห็นถึงความแตกต่างกันในการใช้เครื่องหมายวรรคตอน “:” กับ “ ,” ไหม ?

เพื่อแก้ไขความผิดพลาดข้อนี้ ตอนแปลเราควรฝึกอ่านและเขียนบทความมีเนื้อรูปแบบเมลต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยการใช้ประโยคและคำศัพท์ที่เป็นทางการ รวมถึงการใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่เหมาะที่สุด เพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ใช้ภาษาอังกฤษด้วย

ทั้งหมดคือข้อผิดพลาดในการแปลภาษาอังกฤษที่มักจะพบบ่อย ซึ่งหากใครเจอปัญหาดังกล่าวนี้ อย่าลืมนำคำแนะนำ แนวทางวิธีแก้ไข ที่ทางเว็บไซต์ของเรานำเสนอมาปรับใช้ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเรียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น และอย่าลืมติดตามเว็บไซต์ x3english.co.th ของเราเพื่อรับโปรโมชั่นในคอร์สเรียนดี ๆ และเคล็ดลับต่าง ๆ สำหรับผู้เรียนที่รักภาษาอังกฤษทั่วประเทศ

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Eng Breaking
  • 0 Followers
  • Follow