เป็นที่รู้กันว่า Tense ในภาษาอังกฤษนั้นมีรายละเอียดรูปประโยคมากมายเกิดจากการแบ่งเป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคต รวมทั้งหมด 12 Tenses กว่าจะท่องได้ครบ 12 Tenses ก็เล่นเอางงกันไปตาม ๆ กันวันนี้เราคัดมาให้แล้ว เลือกเฉพาะ 5 Tenses หลัก ๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน รู้ไว้ยังไงก็รอดแน่ ๆ มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

5 Tenses หลักที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน รู้แล้วรอดชัวร์

1.Present Simple Tense
2. Present Continuous Tense
3. Present Perfect Tense
4. Past Simple Tense
5. Future Simple Tense

Present Simple Tense

ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เรื่องทั่วไปที่เป็นข้อเท็จจริง การกระทำที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ เกิดขึ้นเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเหตุการณ์ที่เป็นตารางเวลาหรือกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ประโยคที่เป็น Present Simple Tense มีข้อสังเกตง่าย ๆ คือ มักมีคำว่า always, often, every day, usually, sometimes เป็นต้น

รูปประโยค : Subject + Verb ช่อง 1

ตัวอย่างประโยค
The sun rises in the east and sets in the west.
(ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)

My children don’t go to school today.
(ลูก ๆ ของฉันไม่ได้ไปโรงเรียนวันนี้)

I often have breakfast at workplace.
(ฉันมักจะกินอาหารเช้าที่ทำงานเสมอ)

My mom always gets up at 5 o’clock.
(แม่ของฉันมักจะตื่นนอนตีห้าประจำ)

We starts to online class in five minutes.
(เราจะเริ่มเรียนออนไลน์กันภายใน 5 นาที)

Present Continuous Tense

ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น หรือเกิดขึ้นมาได้สักพักแล้ว หรือกำลังจะเกิดในเร็ว ๆ นี้ ส่วนมากมักจะมีคำที่ใช้บอกเวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เช่น now, today, this week, presently, at this moment เป็นต้น

รูปประโยค :  Subject + Verb to be (is, am, are,) + Verb เติม ing

ตัวอย่างประโยค    
She is running now.
(เธอกำลังวิ่งอยู่ตอนนี้)

The wind is blowing.
(ลมกำลังพัด)

Their baby are getting fat.
(ลูกน้อยของพวกเขากำลังเริ่มอ้วนตุ้ยนุ้ย)

I am working with my dad this week.
(ฉันกำลังทำงานกับพ่อตลอดสัปดาห์นี้)

He is leaving on tomorrow morning.
(เขาจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า)

Past Simple Tense

ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้จบสิ้นไปแล้วเรียบร้อย หรือการกระทำที่ทำประจำในอดีต (ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว)

รูปประโยค : Subject + Verb ช่อง 2

ตัวอย่างประโยค
He came here last night.
(เขามาที่นี่เมื่อคืน)

My friend bought new car two weeks ago.
(เพื่อนของฉันซื้อรถคันใหม่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน)

The school was established in 1950.
(โรงเรียนก่อตั้งขึ้นในปี 1950)

He used to smoke two packs of cigarette a day.
(เขาเคยสูบบุหรี่ 2 ซองต่อวัน)

Last month we worked from home.
(เมื่อเดือนที่แล้ว พวกเราทำงานจากบ้าน)

Present Perfect Tense

ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วเหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน หรือเกิดขึ้นในอดีต และเพิ่งเสร็จไปไม่นานนี้หรือยังไม่เสร็จ ในประโยคมักมี adverb เช่น just, already, yet

รูปประโยค : Subject + has/have + Verb ช่อง 3 (Past Participle)

ตัวอย่างประโยค
The police has just passed my house.
(สายตรวจเพิ่งผ่านบ้านฉันมาเมื่อสักครู่นี้)

We have already finished our job.
(พวกเราทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว)

They haven’t arrived yet.
(พวกเขายังมากันไม่ถึงเลย)

I have lived in Bangkok for 10 years.
(ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพเป็นเวลา 10 ปีแล้ว)

He has met her since 2005.
(เขาได้เจอกับเธอมาตั้งแต่ปี 2005)

Future Simple Tense

ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือการกระทำที่เกิดจากความตั้งใจที่คิดไว้ล่วงหน้า หรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในเร็ว ๆ นี้

รูปประโยค : Subject + will/be going to + Verb ช่อง 1

ตัวอย่างประโยค
We will go shopping tomorrow.
(เราจะไปซื้อข้าวของกันวันพรุ่งนี้)

I will go to see doctor next Monday.
(ฉันจะไปพบคุณหมอวันจันทร์หน้า)

I will send this message to customer service.
(ฉันจะส่งข้อความไปยังฝ่ายบริการลูกค้า)

The train will arrive at the station in a few minutes.
(รถไฟจะมาถึงสถานีในอีก 2-3 นาที)

I think it is going to rain.
(ฉันคิดว่าฝนจะตก (อย่างแน่นอน))