การคุมกำเนิดในปัจจุบันโดยการใช้ถุงยาง ก็เป็นเพียงการดัดแปลงมาจากวิธีการใช้ลำไส้สัตว์หรือใช้ผ้าลินินซึ่งเคยถูกใช้กันมาในอดีต เพราะตอนนี้เรารู้จักการนำยางพารามาผลิต หรือแม้แต่ยาฆ่าเชื้อแบบยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่สอดเข้าช่องคลอดหลังเสร็จภารกิจ ก็ใช้คุณสมบัติเดียวกันกับสิ่งที่คนโบราณเคยทำในอดีตอย่างการใช้น้ำมะนาว เนื่องจากน้ำมะนาวมีกรดซิตริกและมันฆ่าเชื้ออสุจิได้ดีแม้จะไม่ 100% ก็ตาม
ก่อนจะลงไปลึกกว่านี้ อาจจะต้องย้อนกลับมาถึงที่เป้าหมายของการมีเพศสัมพันธุ์ นั่นคือ การสืบพันธุ์ และมันจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการปฏิสนธิ ก่อนที่ตัวอ่อนจะพัฒนา และถือกำเนิดขึ้นมา ประชากรก็จะเพิ่มขึ้น หรือเรียกว่า มีทายาทสืบสกุล การคุมกำเนิดจึงเป็นการขัดขวางไม่ให้เกิดการปฏิสนธิโดยไม่ตั้งใจ นั่นคือการป้องกันไม่ให้เซลล์อสุจิจากเพศชายเข้ารวมกับเซลล์ไข่ของเพศหญิง วิธีการขัดขวางก็มีหลากหลาย แล้วแต่พัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมา โดยสามารถแบ่งตามวิธีการทำงานได้ 3 รูปแบบพื้นฐาน ได้แก่
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เป็นการปิดกั้นหรือขัดขวางการเดินทางของอสุจิ แบบเดียวกับการใช้ผ้าลินิน ลำไส้สัตว์ หรือถุงยางอนามัยในปัจจุบัน ไม่ต้องมีการใช้สารเคมีให้ยุ่งยาก และการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีก็เป็นการคุมกำเนิดที่แทบจะ 100% การใช้ถุงยางอนามัยนอกจากจะป้องกันการปฏิสนธิได้แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคที่อาจจะเกิดจากเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
Spermicide เป็นการฆ่าหรือการทำให้อสุจิหมดสภาพก่อนที่จะมีโอกาสผสมกับไข่ โดยการใช้สารเคมีชนิดต่าง ๆ เพื่อให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนที่ได้หรือทำให้ตายไป โดยวิธีดั้งเดิมเหมือนที่ยกตัวอย่างมาก่อนหน้า คือ การใช้น้ำมะนาว เป็นต้น ปัจจุบันนี้การใช้สารเคมีเพื่อทำลายอสุจิมีหลากหลายชนิดและรูปแบบ สารที่นิยมมากที่สุดคือ Nonoxynol-9 ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ มีผลิตภัณฑ์ออกมาหลากหลายรูปแบบโดยมุ่งเน้นใช้กับฝ่ายหญิง มีทั้งแบบยาเหน็บ ครีม เจล โฟม หรือแม้แต่แบบเคลือบมากับถุงยาง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของการคุมกำเนิด
วิธีสุดท้ายนี้เป็นการใช้สารเคมีที่มุ่งเน้นยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไข่และการตกของไข่ สารเคมีในที่นี้อาจจะเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ที่มาในรูปแบบเม็ด แผ่นปิด การฉีด หรือห่วงซึ่งจะปล่อยส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ออกมา ทำให้ไข่ไม่พัฒนาไปถึงขั้นที่พร้อมจะตกออกจากรังไข่ รวมถึงบางส่วนผสมจะไปกระตุ้นให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้น ทำให้อสุจิยากที่จะเคลื่อนตัวผ่านอีกด้วย
การเลือกใช้งานวิธีการคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ นอกจากเราจะพิจารณาวิธีการใช้งานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพและผลข้างเคียงด้วย ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่าถุงยางอนามัยจะสามารถคุมกำเนิดได้ถึง 98% หากใช้อย่างถูกต้องในทางทฤษฎี แต่ความเป็นจริงพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะได้ผลเพียง 82% วิธีอื่น ๆ ก็เช่นกัน ผลข้างเคียงจากการใช้การคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้หญิง เนื่องจากการคุมกำเนิดซึ่งใช้กับผู้หญิงมักเกี่ยวพันกับการใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์และสารเคมี ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงอย่าง ความดันเลือดสูงขึ้น ปวดหัว อารมณ์แปรปรวน การอักเสบติดเชื้อ การปวดประจำเดือนรุนแรงมากขึ้น และตกขาว เป็นต้น ซึ่งทำให้การคุมกำเนิดในหญิงจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำ การปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และหากจุดประสงค์ของการคุมกำเนิดของคุณคือการคุมกำเนิดแบบถาวร การเลือกที่จะทำหมันถาวรอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า