• สมองซีกซ้าย จะคอยควบคุมการแสดงออก การมีสามัญสำนึก การคิดวิเคราะห์แยกแยะรายละเอียด การคิดวิเคราะห์ตีความ การใช้สมองซีกซ้ายเพียงด้านเดียวมากเกินไปอาจทำให้เป็นคนที่มีความเครียดสูง
• สมองซีกขวา จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ งานศิลปะ ดนตรี รวมไปถึงการรับรู้ของสัญชาตญาณและอารมณ์ความรู้สึก การใช้สมองซีกขวาเพียงด้านเดียวมากเกินไปอาจทำให้เป็นคนขาดระเบียบ ใช้ชีวิตไม่ค่อยมีแบบแผนได้
ในสมองของเราจะมีส่วนที่ชื่อว่า คอร์ปัส คาโลซัม (Corpus callosum) ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมสมองซีกซ้ายกับซีกขวาเข้าด้วยกัน และยังทำหน้าที่เหมือนเป็นสะพานคอยถ่ายทอดข้อมูลระหว่างสมองทั้งสองซีกด้วย หากไม่บริหารคอร์ปัส คาโลซัม เพื่อให้การส่งข้อมูลระหว่างสมองทั้งสองซีกมีความสมดุลกัน ขอบเขตการทำงานของสมองก็จะถูกจำกัด ทำให้รูปแบบการใช้ความคิดวนเวียนอยู่แค่ในกรอบเดิม ๆ ถ้าไม่อยากมีวงจรความคิดแบบเดิม ๆ ก็ต้องบริหารสมองซีกซ้ายและซีกขวาให้สมดุลกัน !
เราสามารถเดินตรงไปข้างหน้าได้แบบชิลล์ ๆ แต่ถ้าลองเดินถอยหลังให้เป็นแนวตรง รับรองว่าจะต้องใช้สมาธิมากขึ้น เพราะต้องคอยระวังและกังวลกับการมองไม่เห็นทิศทาง แล้วยังต้องพยายามประคองร่างกายไม่ให้โงนเงนอีกด้วย การทำแบบนี้จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นสมองซีกซ้ายและซีกขวา
วิธีฝึกเดินถอยหลังเพื่อกระตุ้นสมองทั้งสองซีก
ก้าวถอยหลังโดยให้ปลายนิ้วโป้งเท้าซ้ายแตะกับส้นเท้าขวา ตามด้วยก้าวเท้าขวาไปด้านหลัง ให้ปลายนิ้วโป้งเท้าขวาแตะส้นเท้าซ้าย เวลาก้าวถอยหลัง เท้าต้องก้าวเป็นแนวเส้นตรง และต้องทรงตัวให้อยู่
การใช้มือข้างที่ไม่ถนัดฟอกสบู่ สระผม ล้างตัว หรือแปรงฟัน จะทำให้เราต้องใช้ความพยายามเพิ่มมากขึ้น หรือรู้สึกว่ามันทำได้ยากขึ้น ซึ่งความรู้สึกไม่คุ้นเคยนี่แหละที่เป็นแรงกระตุ้นช่วยบริหารสมองซีกซ้ายและซีกขวา สามารถนำทริคนี้ไปปรับใช้กับกิจกรรมอื่น ๆ ได้นะ เช่น กินข้าวด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ฝึกเขียนด้วยมือฝั่งที่ไม่ถนัด เป็นต้น
เวลาเราปั่นจักรยานแบบปกติ ร่างกายจะขยับเพื่อพาจักรยานไปข้างหน้าเองโดยไม่ต้องตั้งสมาธิเพื่อประคองตัว แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นถีบจักรยานแบบช้า ๆ สมาธิทั้งหมดจะอยู่กับการประคองตัวเพื่อไม่ให้เสียสมดุล ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ทำให้ร่างกายต้องปรับตัวเพื่อรักษาสมดุลนี้ จะช่วยบริหารสมองซีกซ้ายและซีกขวา และยังช่วยกระตุ้นให้สมองทั้งสองซีกมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันเพิ่มมากขึ้นด้วย
ลองหมุนแขวขวาไปด้านหน้าและหมุนแขนซ้ายไปด้านหลัง โดยต้องหมุนให้ไปพร้อม ๆ กันดู แล้วจะพบว่าร่างกายเราจะหยุดชะงักไปแป๊บนึง แรก ๆ ร่างกายจะงงหน่อยแต่สุดท้ายเราก็จะทำได้ ลองฝึกหมุนแขนขวาและซ้ายไปคนละทิศทางให้บ่อย ๆ เพราะมันช่วยให้การทำงานของคอร์ปัส คาโลซัมมีความกระตือรือร้นขึ้น
แหล่งข้อมูล
คาโต้ โทะชิโนะริ. (2558). ฝึกสมองให้ฉับไว แค่ทำอะไรต่างจากเดิม. แปลจาก No no kyokasho. แปลโดยอนิษา เกมเผ่าพันธ์. กรุงเทพฯ: อมรินทร์ฮาวทู อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง