คำนี้ไม่ใช่การกินอาหารสะอาดแต่เพียงอย่างเดียว การกินอาหารแบบคลีน นั้นคือ การกินอาหารที่มีความสดใหม่ใกล้เคียงธรรมชาติ ผ่านกระบวนการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เน้นปรุงรสอ่อน ๆ ได้โดยใช้เกลือแทนซอสต่าง ๆ หรือใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล ปรุงให้สุกโดยการต้ม นึ่ง หรือย่าง ไม่เน้นทอดนะคะ แต่ถ้าต้องทอดก็ต้องใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด ส่วนผักผลไม้เน้นกินสด รวมทั้งไม่กินอาหารหมักดองและอาหารกระป๋อง เพราะเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตหลายขั้นตอนค่ะ สำหรับเนื้อสัตว์ที่สายคลีนนิยมกินกันก็คือ เนื้อปลา อกไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน
คือ การลดน้ำหนักด้วยการจำกัดการกินอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ขนมปัง เค้ก น้ำหวาน ขนม รวมถึงผลไม้บางชนิดที่มีรสหวาน และพืชที่มีหัวใต้ดิน เช่น แห้ว เผือก แครอท รวมถึงธัญพืชบางชนิดด้วยค่ะ เนื่องจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตนั้น เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายจะย่อยเป็นน้ำตาลเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานหลัก แต่ยุคนี้เราแทบไม่ค่อยได้ออกแรงทำงานกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว น้ำตาลที่กินเข้าไปจึงมักใช้ไม่หมด ร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลที่เหลือเป็นไขมันเพื่อเก็บสะสมทำให้น้ำหนักเกิน สำหรับอาหารของสาย Low-Carb จะเน้นหนักไปที่โปรตีนเนื้อสัตว์ ถั่ว และผักต่าง ๆ
การกินแบบคีโตเจนิก คือ การลดน้ำหนักด้วยวิธีจำกัดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลให้น้อยที่สุด แล้วเน้นรับประทานอาหารไขมันที่เป็นประเภทไขมันดีต่อร่างกาย หรือมีชื่อว่า HDL (High Density Lipoprotein) หรือ ไขมันความหนาแน่นสูง พบมากในน้ำมันมะกอก น้ำมันจากเมล็ดถั่ว และปลาทะเล ควบคู่ไปกับกินอาหารประเภทโปรตีน สายคีโตนั้นกินเพื่อเป้าหมายปรับระบบเผาผลาญพลังงานให้เข้าสู่สภาวะคล้ายการอดอาหารค่ะ เมื่อร่างกายต้องใช้พลังงาน แต่ไม่มีพลังงานจากน้ำตาลในเลือด ร่างกายก็จะดึงไขมันที่เก็บสะสมไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงานแทนส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้นั่นเองค่ะ
คำนี้ประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ
Intermittent (Adj.) หมายถึง หยุดพักเป็นช่วง ๆ ไม่ต่อเนื่อง
Fasting (N.) คำนี้ ดูเผิน ๆ หลายคนคงนึกถึงคำว่า fast ที่แปลว่า เร็ว แต่คำนี้เมื่อเปลี่ยนเป็น Fasting ความหมายเปลี่ยนไปและไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องเร็วเลยแม้แต่น้อยค่ะ แต่ Fasting หมายถึงการอดอาหาร การไม่กินอาหาร หรือ การทำให้กระเพาะอาหารว่าง
ดังนั้นคำว่า Intermittent fasting จึงหมายถึง การจัดเวลาการกินอาหารสลับกับการอดอาหารเป็นช่วง ๆ ค่ะ มีทั้งแบบอด 12 ชั่วโมง คือ กินข้าวมื้อเย็นตอน 6 โมงเย็นแล้วจากนั้นไม่กินอาหารอะไรอีกเลย (ยกเว้นน้ำเปล่า ชา กาแฟดำ) จนถึง 6 โมงเช้า หรือถ้ากินแบบอด 16 ชั่วโมง เช่น เริ่มอดอาหารกินมื้อเย็นไปแล้วตอน 6 โมงเย็น นับไปอีก 16 ชั่วโมงจึงจะกินได้อีกทีได้ก็คือ 10 โมง การกินแบบ Intermittent fasting สามารถทำให้น้ำหนักลดได้ เนื่องจากร่างกายเมื่ออยู่ในสภาพอดอาหาร ก็จะดึงไขมันที่สะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงาน สำหรับอาหารที่กินนั้น สาย IF เค้าจะไม่เข้มงวดมากค่ะ คือในช่วงกินสามารถกินอาหารได้ปกติ จะแบ่งเป็นกี่มื้อก็ได้ แต่เน้นว่าต้องมีสารอาหารครบถ้วนและให้พลังงานไม่สูงมากนัก
ประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ
Carnivore หมายถึง สัตว์กินเนื้อ เช่น เสือ แมว สิงโต หรือ พืชที่กินแมลงเป็นอาหาร (มีคำตรงข้ามคือ herbivore แปลว่า สัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร) สำหรับในที่นี้คือ การกินแต่เนื้อสัตว์อย่างเดียว
Diet การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
ดังนั้นคำว่า Carnivore Diet จึงหมายถึง การกินอาหารเฉพาะที่เป็นเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้นค่ะ เช่น ไข่ เนยแท้ ชีส น้ำมันหมู และไม่กินผัก ผลไม้ หรืออาหารที่ทำจากพืช เช่น ข้าว กะทิ น้ำตาล น้ำส้มสายชู เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อไม่กินอาหารจากพืชเลย ทำให้ต้องตัดขาดจากอาหารหวาน ขนมที่มีแป้งและน้ำตาลทุกชนิดโดยอัตโนมัติ นับว่าโหดร้ายต่อจิตใจพอควรเลยค่ะ ส่วนการปรุงรสจะใช้เกลือเท่านั้น เพราะซอสต่าง ๆ แม้กระทั่งน้ำปลา อาจมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมได้