หลายคนอาจจะกังวลในเรื่องของการปลูกต้นไม้ในบ้านว่าต้นไม้จะแย่งออกซิเจนเราหายใจหรือไม่ เพราะโดยทั่วไปนั้นต้นไม้จะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อทำการสังเคราะห์แสงและปล่อยก๊าซออกซิเจนในเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนพืชจะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา แต่มีพืชชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม CAM Plant (Crassulacean Acid Metabolism Plant) ที่ปล่อยก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืนด้วย
พืชในกลุ่ม CAM Plant นี้ เป็นพืชทนแล้งและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืน โดยปกติทั่วไปแล้ว พืชจะมีปากใบ (Stomata) ซึ่งปากใบจะเปิดในเวลากลางวันเพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยก๊าซออกซิเจน พืชทั่วไปจะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารแก่พืชอย่างน้ำตาล เป็นต้น และในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพวกมันจะปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมา ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการสังเคราะห์แสง
อย่างไรก็ตาม สำหรับพืชที่ทนแล้ง (CAM Plant) การเปิดปากใบในเวลากลางวันนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้พืชสูญเสียน้ำเป็นอย่างมาก ดังนั้น ในสภาวะที่แห้งแล้งและอากาศเย็นในเวลากลางคืน จะมีการสูญเสียน้ำน้อยกว่า ทำให้พืชชนิดนี้เปิดปากใบในเวลากลางคืนเพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนออกมา จากนั้นจะนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดูดซับในเวลากลางคืนมาใช้ในเวลากลางวัน
มีพืชหลายชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ในอากาศร้อนและแห้งแล้งได้ และพืชชนิดนี้สามารถปลูกในห้องนอนได้เนื่องจากมีการปล่อยก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืน ตัวอย่างพืชดังกล่าว เช่น
1. ต้นอากาเว่ (Agave)
ต้นอากาเว่เป็นพืชที่สามารถอยู่ได้ในที่แห้งแล้งเช่นเดียวกับกระบองเพชร ตามใบของต้นอากาเว่จะมีหนามเพื่อลดการคายน้ำและรักษาน้ำในต้นพืช
2. ต้นลิ้นมังกร (Sansevieria Trifasciata)
ต้นลิ้นมังกรเป็นต้นที่มีลักษณะคล้ายดาบ ลำต้นเรียวยาว เป็นต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้เนื่องจากปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน และดูดซับสารพิษ นอกจากนั้นยังต้องการน้ำน้อย เหมาะสำหรับการวางไว้ในบ้านเนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ต้องรดน้ำบ่อย รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็อยู่รอดได้
3. ว่านหางจระเข้ (Aloe vera)
ว่านหางจระเข้เป็นพืชอวบน้ำที่ไม่ต้องการน้ำมาก ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ซึ่งนอกจากจะเป็นพืชที่ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก บรรเทาอาการปวดแล้ว ก็ยังสามารถฟอกอากาศได้อีกด้วย