การสอนการอ่านแบบ Phonics ทำให้เด็กๆ สามารถอ่านและสะกดภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้นเพิ่มความเข้าใจ ลดการท่องจำ
แทนที่เด็กๆ จะจำแต่ชื่อของตัวอักษร เช่น เอ (A), บี (B), ซี (C) เด็กๆ จะได้รู้จักเสียงของตัวอักษรด้วย เช่น A ออกเสียงว่า แอะ, B ออกเสียงว่า เบอะ, C ออกเสียงว่า เคอะ และเมื่อเด็กๆ เข้าใจในการออกเสียงของแต่ละพยัญชนะ และสระ ก็จะทำให้พวกเข้านำเสียงมาประกอบกัน และอ่านออกเสียงด้วยความเข้าใจง่ายขึ้น ตัวอย่างการสะกดแบบ Phonics เช่น CAT แคท เด็กๆ ก็จะสะกดตามเสียงว่า เคอะ (C) แอะ (A) เทอะ (T) แคท
การสอน Phonics ให้น่าสนใจและได้ผลสำหรับเด็กเล็ก สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ
- เสียง E เชื่อมกับคำว่า Egg
- เสียง S เชื่อมกับ เสียงของงู และคำศัพท์ Snake
- เสียง CH เชื่อมกับคำว่า Chicken
- เสียง P เชื่อมกับคำว่า Puppy
เสียงและคำศัพท์เหล่านี้สามารถสอนผ่านการใช้ Phonic Flashcard
เพลงถือว่าเป็นสื่อการสอนที่ใช้ได้ง่าย และช่วยให้เด็กๆ จำเสียงได้ง่าย การร้องเพลงทำให้บทเรียนไม่น่าเบื่อ เพลงโฟนิกส์ หรือ Phonics songs ส่วนใหญ่จะมีทำนองที่ร้องง่ายติดหู และเนื้อหาในเพลงก็จะใกล้ตัวเด็กๆ ทำให้เด็กๆ เข้าใจทั้งเสียงและคำศัพท์อื่นๆ อีกด้วย Phonics songs สามารถหาได้ทั้วไปในอินเตอร์เน็ท หรือ YouTube
แน่นอนว่าเกมส์กับเด็ก ถือว่าเป็นของคู่กัน เกมส์โฟนิกส์แบบออนไลน์ที่สามารถเล่นผ่านแท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้ มีทั้งการจับคู่คำศัพท์กับเสียง หรือจับคู่เสียงเริ่มต้นกับรูปภาพ หรือเดาเสียงที่ได้ยิน
Worksheets หรือ Activity sheets ก็ยังถือว่าเป็นสื่อการสอนที่หาได้ง่าย และใช้ง่ายทั้งสำหรับคุณครูที่โรงเรียนและผู้ปกครองที่บ้าน Phonics Activity Sheets มีให้เลือกมากมาย เช่น การเติมตัวอักษรในช่องว่าง, เติมเสียงที่ถูกต้องใต้รูปภาพ, หาคำศัพท์ใน Phonics Word Search
เสียงในภาษาอังกฤษทั้งเสียงพยัญขนะและสระ มีทั้งหมด 44 เสียง คุณครูและผู้ปกครองสามารถเลือกสอนเริ่มจากเสียงที่ง่ายๆ ไปยังเสียงที่มีความซับซ้อน ตามความเหมาะสมของระดับอายุของเด็กๆ สื่อการสอนโฟนิกส์สามารถหาเพิ่มเติม และดาวน์โหลดได้ที่ www.twinkl.co.th
ขอบคุณ Twinkl Thailand สำหรับตัวอย่างสื่อ
และโค้ดสมัครและดาวน์โหลดสื่อฟรี THATWINKLHELPS