เพื่อน ๆ หลายคนที่เรียบจบแล้ว อาจจะเข้าสู่ช่วงหางานและเดินสายสัมภาษณ์งานกันอยู่ เรามาเรียนรู้ประโยคที่มักจะถูกถามในห้องสัมภาษณ์กันเพื่อที่จะได้เตรียมคำตอบ และฝึกพูดให้คล่องปากกันค่ะ

ก่อนอื่น มาอธิบายคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการหางาน และสัมภาษณ์งานกันก่อนค่ะ

Job Interview สัมภาษณ์งาน

Interviewer ผู้สัมภาษณ์ / Interview Panel กรรมการสัมภาษณ์ (ที่มีมากกว่าหนึ่งคน)

Interviewee ผู้ถูกสัมภาษณ์ หรือในที่นี้ในแง่ HR จะเรียกว่า Candidate 

Interview appointment การนัดสัมภาษณ์งาน

Shortlisted candidates ผู้สมัครงานที่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ (หรือบางที่คือมีการสอบข้อเขียนก่อน)

Written Test การสอบข้อเขียน

CV (Curriculum Vitae) / Resume ทั้งสองคำนี้คือ ประวัติของผู้สมัครงาน ประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัว การศึกษา ประวัติการทำงาน หรือการฝึกงานต่างๆ โดยที่ความต่างคือ CV จะเขียนโดยละเอียดกว่า แต่ resume มักจะเป็นเนื้อหาย่อๆ แค่หน้าหรือสองหน้า

ต่อไปเป็นคำถามที่พบได้บ่อยค่ะ

Please introduce yourself.
Can you tell me a little bit about yourself?
ให้แนะนำตัวเองสั้นๆ เกี่ยวกับการศึกษา ประวัติการทำงานคร่าวๆ ว่าทำด้านบริษัทอะไร ด้านไหน และสรุปเนื้อหางานคร่าวๆ แค่ประโยคสองประโยคพอนะคะ เพราะว่าคำถามต่อๆ ไป มักจะมีการถามเจาะลึกเกี่ยวกับเนื้องานอยู่แล้ว

How did you hear about the vacant position (ตำแหน่งว่าง)?
How did you learn about the opening (การเปิดตำแหน่งงาน)?
อธิบายว่าเราได้ข่าวการรับสมัครงานนี้มาจากไหน

และมักจะตามมาด้วยคำถามว่าทำไมเราถึงสมัครงานนี้
Why did you apply for this position? 
Why you are applying for the position?
Why are you the best person for this job?
Why are you a good fit for the position?
Why should we hire you?
What can you offer us that someone else cannot?

คำถามเหล่านี้เปิดโอกาสให้เราขายของได้เลย ว่าทำไมเราจะเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมและโดดเด่นที่สุดค่ะ
What are your strengths and weaknesses? 
What is your greatest strength?
What is your greatest weakness?
ในการตอบให้เราบอกข้อดีและข้อเสียของตัวเองค่ะ

ข้อดีไม่น่ามีปัญหาอะไร เราขายของได้เต็มที่ค่ะ คำศัพท์ที่มักใช้ก็เป็นแนวทางในการตอบ
Creativity/Think out of the box มีความคิดสร้างสรรค์ หรือคิดนอกกรอบ 

Team-player/Teamwork ทำงานเป็นทีม

Work hard ทำงานหนัก

Customer-oriented ในการทำงานที่ติดต่อกับลูกค้าเป็นหลัก ใช้คำนี้ดีมาก คือการที่เราทำงานโดยนึกถึงลูกค้าเป็นเรา เอาใจเขามาใส่ใจเรา

Positive thinking/ Can-do attitude มีความคิดบวก และคิดว่าทุกอย่างสามารถทำได้

Analytical skills มีทักษะในการคิดวิเคราะห์

Prioritization มีการจัดสรรลำดับความสำคัญของงานดี

ข้อเสียนั้น เราควรจะพูดไปในแนวที่เป็นข้อเสียที่ไม่กระทบมากนักในการทำงาน หรือไม่เป็นข้อเสียที่ร้ายแรง เช่น
Too much detail-focused เป็นคนละเอียดเกินไปบางครั้ง

Too much multitasking ทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันมากเกินไป บางทีทำให้ผิดพลาดในบางจุดได้

Easy to get stressed มีแนวโน้มเครียดได้ง่าย

Perfectionist เป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบ

Tell us about a challenge or difficult situations in the workplace, and how you handled them.
Tell me about one major accomplishment you are most proud of.
Can you tell me about a biggest professional achievement?
Can you share about mistakes you’ve made, and how you solved the problem?
What do you find are the most difficult decisions to make?
ข้อนี้เป็นคำถามที่มองว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นข้อที่เปิดโอกาสให้เราได้อธิบายถึงเนื้องานที่เราเคยทำมาในรายละเอียด ได้เล่าถึงความสำเร็จที่เราเคยทำ หรือแม้แต่ข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น และเราจัดการปัญหานั้นอย่างไร 

Tell me about a time when you have conflict with your colleague or boss, and how you come up with a solution?
คำถามแนวนี้ ผู้สัมภาษณ์อยากทราบว่าเวลามีปัญหาขัดแย้งกันในทีมกับเจ้านาย หรือในองค์กร เรามีวิธีคิดและการแก้ปัญหาอย่างไร

What is your leadership style?
What are some of your leadership experiences?
ตำแหน่งที่มีลูกน้อง ผู้สัมภาษณ์อยากทราบสไตล์การนำทีม และประสบการณ์การเป็นผู้นำค่ะ

How do you deal with pressure?
ผู้สัมภาษณ์จะดูว่าเราจัดการความเครียดอย่างไร

Are you willing to relocate?
ข้อนี้ถามว่าเรายินยอมที่จะโยกย้ายไปทำงานที่อื่น เช่น สาขาต่างประเทศได้หรือไม่

What is your salary expectation?
คือค่าตอบแทนที่เราอยากได้ค่ะ

ได้เรียนรู้ตัวอย่างคำถามในการสัมภาษณ์งานกันไปพอสมควร หวังว่าเป็นเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์งานกันทุกคน แล้วพบกันใหม่ สวัสดีค่า