Tone คือ การใช้คำและสไตล์การเขียนเพื่อถ่ายทอดทัศนคติของผู้เขียนที่มีต่อเรื่องราว โดย Tone เป็นได้ทั้งแบบทางการ ไม่เป็นทางการ จริงจัง ตลก เสียดสี เศร้า ร่าเริง หรืออาจเป็นทัศนคติอื่นๆ ก็ได้ ซึ่ง Adjective (คำคุณศัพท์) และ Adverb (คำกริยาวิเศษณ์) ทุกคำที่ใช้ โครงสร้างประโยค และสำนวนอุปมาอุปไมยที่ใช้จะแสดงออกมาเป็น Tone ของผู้เขียน พูดง่ายๆ ว่า Tone คือทัศนคติของผู้เขียนที่ถ่ายทอดออกมาเป็นบรรยากาศของเรื่อง ซึ่งเราจะได้พบเจอหรือใช้ Tone ได้ทั้งในการพูดในชีวิตประจำวัน รวมถึงในงานเขียน งานประพันธ์ต่างๆ
ตัวอย่างที่ 1
Father: We are going on a vacation.
Son: That’s great!!!
Tone ของลูกชายที่ตอบอออกไปว่า great เป็นอารมณ์ที่แสดงความร่าเริงมากๆ
ตัวอย่างที่ 2
The prisoners who escaped are violent and dangerous.
Tone ของประโยคนี้คือ violent บ่งบอกความรู้สึกว่ารุนแรง
To Kill a Mockingbird : Harper Lee
Neighbors bring food with death and flowers with sickness and little things in between. Boo was our neighbor. He gave us two soap dolls, a broken watch and chain, a pair of good-luck pennies, and our lives. But neighbors give in return. We never put back into the tree what we took out of it: we had given him nothing, and it made me sad. Tone is not an action. It is an attitude.
ตัวอย่างนี้มาจากนวนิยายเรื่อง To Kill a Mockingbird เล่าเรื่องโดยเด็กผู้หญิงชื่อ สเกาต์ ที่พูดถึงเรื่องราวในอดีต โดย Tone ของตัวอย่างนี้เป็นความรู้สึกเศร้าของผู้เล่าที่เมื่อก่อนเคยได้รับสิ่งต่างๆ จากเพื่อนบ้าน แต่ไม่เคยให้อะไรตอบกลับเขาไปเลย
1. Tone = ผู้เขียน
2. Tone ของผู้เขียน = บรรยากาศของเรื่อง
3. Tone ไม่ได้อธิบายหรือแสดงออกโดยตรง
4. ผู้อ่านต้อง ‘อ่านระหว่างบรรทัด’ เพื่อจะได้รู้สึกถึงทัศนคติของผู้เขียนและระบุ Tone