เป้าหมายการเรียนต่อของเด็กที่จบ ม. 6 ในประเทศไทย ส่วนใหญ่มักมีเป้าหมายไปที่การเรียนต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งกว่าจะสอบติดได้นั้นก็ยากมาก หลายคนทุ่มเทชีวิตวัยรุ่นเพื่อหวังจะได้มีที่เรียนดี ๆ ปัญหาคือมีเด็กหลายคนที่ตั้งใจจนสอบติด แต่ต้นทุนเรื่องเงินทางบ้านไม่เพียงพอ สอบติดแต่ไม่มีเงินเรียน เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจมาก เพื่อช่วยให้น้อง ๆ กลุ่มนี้มีโอกาส พี่ปลูกนำข้อมูลที่พอจะช่วยเป็นทางออก แล้วใช้เป็นทางเลือกให้เรียนต่อได้มาฝาก
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ จะเปิดพื้นที่ให้เด็กทุนหลายโครงการ โดยเปิดรับทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน ภายใต้เงื่อนไขคุณสมบัติที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น เกรดเฉลี่ยต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีประวัติการทำกิจกรรมหรือได้รางวัล มีผลงานเกี่ยวข้องกับคณะหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่เปิดรับสมัคร มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีสิทธิ์ เป็นต้น โดยรายละเอียดจะระบุชัดเจนว่า เป็นทุนที่มหาวิทยาลัยออกค่าใช้จ่ายให้กี่เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างคือ ถ้าเป็นทุน 50% นักศึกษาทุนจะต้องออกค่าใช้จ่ายอีกครึ่งหนึ่งเอง ส่วนทุน 100% เรียนฟรีจนจบก็มีเช่นกัน ซึ่งรูปแบบทุนขึ้นอยู่ที่มหาวิทยาลัยแต่ละที่กำหนด
สำหรับคนที่ต้องการขอรับทุนของมหาวิทยาลัย สิ่งที่ต้องทำคือ ติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัคร ดูรายละเอียดให้ดีว่าเราอยู่ในเกณฑ์ที่มีสิทธิ์ไหม สำคัญคือต้องรักษาผลการเรียนของตัวเองให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถึงจะมีลุ้นโอกาสติดทุน เพราะเกรดดีก็มีภาษีนำไปแล้ว 1 คุณสมบัติ แต่ที่ต้องระวังคือ ระหว่างเรียนถ้าเกรดไม่ถึงเกณฑ์ก็อาจมีหลุดทุนได้ ดังนั้นต้องทำเกรดให้ดีตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง
ทุนที่เปิดรับในระบบ TCAS : เปิดรับมากที่สุดในรอบที่ 2 และบางโครงการอาจเปิดรับในรอบที่ 1, 3
ทุนมหาวิทยาลัยเอกชน : มักเปิดรับในรอบก่อน Admission 2 และอาจมีบางโครงการเปิดรับเพิ่มเติมภายหลัง
รายละเอียดรับตรง >> Click
หลายบริษัทจะมีเปิดโครงการดี ๆ เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับผู้ที่สนใจ ส่งเรื่องสมัครเข้ารับการพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดในเงื่อนไขของแต่ละที่ ส่วนใหญ่เป็นทุนที่พิจารณาจากผลการเรียนดีมีความสามารถ นอกจากนี้ยังมีทุนจากการประกวดรางวัลอีกด้วย ทุนในลักษณะนี้คือการคัดผู้ชนะจากกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อมอบรางวัลเป็นทุนการศึกษา ซึ่งจะมีทั้งเงินรางวัลเป็นก้อน และทุนสนับสนุนการศึกษาจนเรียนจบปริญญา
โอกาสการได้ทุนประเภทนี้ ค่อนข้างได้มายากกว่าทุนที่มหาวิทยาลัยเปิด เพราะต้องแลกมาด้วยการแข่งขันจากคนหลายกลุ่ม หากเรามีความสามารถและมีผลการเรียนที่ดี สะสมผลงานมาในระดับหนึ่ง ยังไงโอกาสที่เราจะได้รับทุนก็มีลุ้นสูง
กยศ. เป็นกองทุนให้เงินกู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษา ที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา แบ่งเบาภาระด้านการเงินของผู้ปกครอง โดยการสนับสนุนค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาและค่าครองชีพให้กับผู้ที่มีความจำเป็น หรือศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการหลัก ตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย สายสามัญ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยไม่คิดดอกเบี้ยระหว่างศึกษาอยู่ ซึ่งสามารถกู้ได้ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน และจะต้องชำระเงินคืนหลังจากจบการศึกษา ซึ่งสามารถผ่อนชำระได้ ใครจะเลือกกู้ กยศ. พี่ปลูกขอย้ำเลยว่าเรียนจบแล้วต้องจ่ายเงินคืนอย่างต่อเนื่อง อย่าทำเพิกเฉยเด็ดขาด ทำผิดกฎมีบทลงโทษตามกฎหมาย และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับรุ่นน้องที่อยู่ในโครงการต้องเดือดร้อน จากปัญหาการค้างชำระของรุ่นพี่
รายละเอียดการกู้ กยศ. >> Click
ใครที่ผู้ปกครองเป็นข้าราชการ จะมีสวัสดิการที่ช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตร ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือไม่เต็มจำนวนค่าเทอม หมายความว่าเราต้องจ่ายเองด้วย ยกตัวอย่างเช่น สิทธิช่วยค่าเล่าเรียน 50% ต่อเทอมการศึกษา เท่ากับว่าเราต้องจ่ายเงินเองครึ่งหนึ่ง และหน่วยงานจะช่วยจ่ายในส่วนที่เหลือให้ ซึ่งต้องนำใบเสร็จและเอกสารยอดค่าเทอมไปขอเบิกเงินคืนย้อนหลัง ส่วนเปอร์เซ็นต์เงินช่วยเหลือต่อเทอมการศึกษา ของแต่ละหน่วยงานนั้นไม่เท่ากัน ต้องดูรายละเอียดในสิทธิ์ที่ผู้ปกครองเรามีให้ดี
การศึกษาไม่ได้จบแค่ในประเทศ สำหรับคนที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศแต่งบไม่พอ สามารถขอรับทุนเรียนต่อต่างประเทศได้หลายช่องทาง เช่น ทุนจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ, ทุนจากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ หรือทุนเรียนฟรีจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศเป็นผู้ให้โอกาส, หรือทุนภายในประเทศ ที่มาจากบริษัทและรัฐบาลไทย เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ เป็นต้น
สำหรับเงื่อนไขส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบแล้ว มีทั้งกำหนดให้ทำงานต่อในบริษัทเจ้าของทุนเพื่อนำความรู้มาช่วยพัฒนา รวมทั้งทำงานในประเทศที่เป็นเจ้าของทุนนั้น ๆ จนครบกำหนด ส่วนทุนจากประเทศไทยส่วนใหญ่ เมื่อเรียนจบแล้ว ก็ต้องกลับมาทำงานเพื่อช่วยพัฒนาประเทศในหน่วยงานต่าง ๆ หรือเข้าไปเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย เป็นต้น ทุนในลักษณะนี้เหมาะกับคนที่เรียนดี มีความรับผิดชอบ มีทักษะช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องมีทักษะภาษาที่ดีอีกด้วย ใครรู้ตัวว่าคุณสมบัติอยู่ในเกณฑ์ก็สามารถส่งเรื่องสมัครขอรับทุนได้เลย
ทางออกที่เรียบง่ายแต่ก็ทำได้ไม่ง่ายนักคือ การทำงานหาเงินเรียนเอง วิธีนี้ต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่นและอดทน เพราะต้องจัดเวลาเรียนกับการทำงานให้ลงตัว ซึ่งต้องทนกับความกดดันทั้งสองด้าน รู้แบบนี้แล้วอย่าเพิ่งท้อ มีหลายคนที่เลือกวิธีนี้ก็สามารถเรียนจบจนมีชีวิตที่ดีในสังคมได้ มีคนทำได้เราก็ต้องมีกำลังใจว่าทำได้
ค่าเทอมแต่ละมหาวิทยาลัยถูกแพงไม่เท่ากัน ไหนจะค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีก กรณีที่หาเงินชำระไม่ทัน แนะนำให้ทำเรื่องผ่อนผันหรือแบ่งชำระเป็นงวด ๆ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยนั้นมีขั้นตอนนี้รองรับปัญหาของนักศึกษาอยู่แล้ว เรียนไปแล้วเกิดหมุนเงินไม่ทัน อย่าเพิ่งท้อจนเลือกวิธีลาออกก่อนหาทางแก้ปัญหา
ในกรณีที่ใช้ทุนเรียนแบบมีเงื่อนไข ต้องศึกษากฎระเบียบและระวังให้ดี ทุนลักษณะนี้จะกำหนดชัดเจนว่า หากทำผิดกฎมีสิทธิ์หลุดทุน!
1. ผลการเรียนต่อเทอมต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
ทุนเรียนดีส่วนใหญ่ มักกำหนดเกรดต่อเทอมที่นักศึกษาต้องทำให้ผ่านไว้เป็นเงื่อนไข เพื่อกระตุ้นให้มีความใส่ใจในการเรียน เห็นคุณค่าของเงินที่ได้รับการช่วยเหลือ เช่น บางโครงการเกรดต่อเทอมต้อง 3.00 ขึ้นไป หากนักศึกษามีผลการเรียนไม่ผ่าน ก็มีโอกาสหลุดทุน ซึ่งตัวเลขของเกรดขั้นต่ำนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโครงการ
2. เรียนจบต้องทำงานกับเจ้าของทุน
บางบริษัทมีนโยบายให้ทุนการศึกษา แต่เงื่อนไขคือหลังจบแล้วต้องตอบแทน ด้วยการเข้าทำงานกับบริษัท เพื่อนำความรู้ที่เรียนมาช่วยพัฒนาบริษัทให้ดีขึ้น
3. ต้องเก็บชั่วโมงการทำงานให้ครบ
กรณีนี้มักเป็นข้อกำหนดที่มาจากโครงการทุนของมหาวิทยาลัย ที่จะเก็บชั่วโมงการทำงานต่อเทอมตามจำนวนที่กำหนด ซึ่งชั่วโมงต่าง ๆ นั้นนักศึกษาทุนจะได้มาจากการช่วยมหาวิทยาลัยทำงาน ซึ่งจะต้องทำให้ครบตามที่กำหนดต่อเทอม และในบางงานมหาวิทยาลัยอาจมีค่าตอบแทนให้ หรือเป็นงานจิตอาสา
4. ย้ายคณะ/สาขา มีโอกาสหลุดทุน
อาจมีบางโครงการที่เป็นทุนเฉพาะของคณะหรือสาขาวิชานั้น ๆ เมื่อนักศึกษาได้รับทุนมาแล้ว อนาคตต้องการเปลี่ยนแปลง อาจจะย้ายสาขาวิชาหรือคณะก็อาจหลุดทุนได้ เพราะไม่อยู่ในข้อกำหนดที่โครงการกำหนดไว้
รายละเอียดที่เด็กทุนควรรู้ >> Click
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่นำมาฝาก เพื่อให้น้อง ๆ ที่เรียนดี มีความมุ่งมั่น และสอบติด แต่ครอบครัวขาดทุนทรัพย์ ได้ใช้เป็นทางเลือกเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ให้มีโอกาสได้เรียนในคณะที่ใฝ่ฝัน หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะสามารถเป็นหนึ่งในทางออกของคนงบน้อย ที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย ข้อจำกัดด้านการเงิน จะไม่ใช่ขีดจำกัดด้านการศึกษา