ใครที่กำลังอารมณ์เปราะบาง จมดิ่งกับความเศร้า ไม่เอนจอยกับการใช้ชีวิต เราขอแนะนำ 10 หนังสือดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มพลังบวก พร้อมโอบกอดเราให้มีพลังและเข้มแข็งขึ้น ลองไปหาซื้อมาอ่านเลย ในงานหนังสือครั้งที่ 48 มีขายทางออนไลน์ทุกเล่มนะ แถมลดราคาด้วย

เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด

ผู้เขียน: คิมรันโด

สำนักพิมพ์: Springbooks

หนังสือที่เป็นเหมือนคู่มือการใช้ชีวิตให้วัยรุ่นที่กำลังหวั่นไหว เปลี่ยวเหงา โดดเดี่ยว สับสนเพียงเพราะเป็นวัยรุ่นที่ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา หรือไม่กล้าปรึกษาคนอื่น อ่านจบแล้วจะลบความรู้สึกเปลี่ยวเหงา สับสนออกได้มากเชียวล่ะ และอาจช่วยให้ค้นพบตัวเองในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย

ชีวิตไม่ง่าย แต่รับมือได้ไม่ยาก

ผู้เขียน: นัมอินซุก

สำนักพิมพ์: นานมีบุ๊คส์

หนังสือเพิ่มพลังบวกที่บอกเล่า 55 ข้อคิดจากการใช้ชีวิตของ ‘นัมอินซุก’ นักเขียนหนังสือขายดีและโค้ชการใช้ชีวิตชาวเกาหลี แต่ละบรรทัดในหนังสือให้ความรู้สึกอบอุ่นและฮีลตัวเราได้ดี อ่านเล่มนี้จบจะให้ฟีลเหมือนเราไปปรึกษาปัญหาชีวิตกับรุ่นพี่ และได้รับคำแนะนำที่จะช่วยให้ก้าวไปข้างหน้าและยิ้มกว้างมากขึ้น

ก็แค่ปล่อยมันไป

ผู้เขียน: ฮึนกึล

สำนักพิมพ์: Springbooks

หนังสือที่ผู้เขียนเข้าใจดีว่า ชีวิตคนเราต้องเจอกับความหม่นหมอง และถ้ารับมือกับมันไม่ไหวจะล้มลงก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าล่มสลายก็พอ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยความเรียงที่จะปลอบใจให้เรายืนขึ้นได้อีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม และยังเป็นหนังสือที่ #แจบอมอ่าน ด้วย

ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนของขวัญ

ผู้เขียน: โซจองมิน

สำนักพิมพ์: Springbooks

ใครที่กำลังทุกข์หนักจนรู้สึกว่าโดนสาป ขอแนะนำให้ลองอ่านเล่มนี้ดู แล้วจะได้รับพลังดี ๆ จนสนุกกับชีวิตมากขึ้น เราชอบประโยคในหนังสือที่บอกว่า “ความผิดพลาดเป็นเพียงหลักฐานว่าเรากำลังพยายามอยู่ คำวิจารณ์เป็นเพียงหลักฐานว่าอาจไม่ตรงกับรสนิยมผู้อื่น ความทุกข์เป็นเพียงหลักฐานว่าชีวิตยังเต็มไปด้วยคลื่นลม” และหนังสือเล่มนี้ #ซีวอนอ่าน ด้วยนะ

to every me who I remember

ผู้เขียน: Twoego

สำนักพิมพ์: แจ่มใส

“แค่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ก็มีคุณค่ามากพอแล้ว มีชีวิตอยู่ในแบบของฉัน มีชีวิตอยู่ในแบบของเธอ มีชีวิตอยู่ในแบบของเรา เหตุผลเพียงเท่านี้ก็เพียงพอต่อการมีชีวิตอยู่แล้ว” เป็นหนึ่งในประโยคจากหนังสือที่อ่านแล้วทำให้ยิ้มได้ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่โอบกอดเรา แต่ยังช่วยจุดประกายความคิด เพิ่มมุมมองของการใช้ชีวิตอีกด้วย และที่สำคัญ #แจบอมอ่าน เล่มนี้ด้วยแหละ

ถึงเวลากลับมาดูแลหัวใจตัวเอง

ผู้เขียน: ปาร์กจินยอง

สำนักพิมพ์: Springbooks

ครั้งสุดท้ายที่เรานั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเองอย่างจริงจังคือเมื่อไหร่ ?...หนังสือเล่มนี้จะพาทุกคนกลับมาดูแลหัวใจตัวเอง เพราะก่อนจะแคร์คนอื่น เราก็ต้องแคร์ตัวเองให้เป็นก่อน อ่านจบแล้วจะรักตัวเองมากขึ้น และมีมุมมองการใช้ชีวิตที่แฮปปี้มากกว่าเดิม ส่วนใครที่ชอบทำแบบทดสอบ ขอบอกว่าในเล่มเขามีแบบทดสอบให้ทำเพื่อสำรวจตัวเองด้วยนะ

คินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต

ผู้เขียน: Tomas Navarro

สำนักพิมพ์: Move Publishing

หนังสือที่จะช่วยประกอบหัวใจที่แตกร้าวของเราขึ้นใหม่ เราชอบประโยคในหนังสือที่บอกว่า "ทุกคนล้วนเปราะบาง อ่อนไหว และแตกหักได้ จึงควรเรียนรู้วิธีกอบเก็บชิ้นส่วนของชีวิตที่แตกหักแล้วนำกลับมาซ่อมแซม เชื่อมประสาน รู้จักโอบกอดบาดแผลในใจและทำให้มันเปล่งประกายงดงามออกมา" การันตีว่าอ่านแล้วจะช่วยฮีลตัวเองให้เข้มแข็งขึ้นมาก ๆ เพราะเขียนโดยจิตแพทย์ชื่อดังที่มีประสบการณ์รักษาผู้บาดเจ็บทางใจมายาวนานหลายสิบปี

HAPPY FIRST เริ่มต้นที่ความสุข

ผู้เขียน: พักแช-กยู

สำนักพิมพ์: Springbooks

หนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่ท้อใจกับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต ในหนังสือจะมี 120 ข้อความที่ไม่ใช่คำพูดหวือหวาหรือสวยหรู แต่เป็นคำธรรมดา ๆ ที่จะช่วยเยียวยา ปลอบใจ และทำให้เราฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ อ่านแล้วจะมีแรงฮึดขึ้นเยอะเลยล่ะ #แจบอมอ่าน ด้วยนะ

I Decided to Live as Myself

ผู้เขียน: คิมซูฮยอน

สำนักพิมพ์: แจ่มใส

หนังสือเล่มที่สี่ของ ‘คิมซูฮยอน’ ที่จะมาช่วยนำทางและให้กำลังใจกับวัยรุ่นที่กำลังเติบโตเพื่อจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งความจริงอันแสนเย็นชา ข้อความในหนังสือจะช่วยให้เรารู้สึกรักตัวเองมากขึ้น และยังช่วยให้เราขบคิดถึงความหมายที่แท้จริงของการใช้ชีวิตตามใจตัวเองอีกด้วย

เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ

ผู้เขียน: James R. Doty

สำนักพิมพ์: Amarin HOW-TO

หนังสือที่บอกเล่าชีวิตจริงของ ‘จิม โดตี้’ เด็กชายผู้มีชีวิตที่แหลกสลาย พ่อติดเหล้า แม่เป็นโรคซึมเศร้าและอัมพาด จนเขาได้พบกับ ‘รูธ’ ในร้านขายของมายากล ซึ่งเธอเป็นผู้ช่วยให้ชีวิตที่มืดแปดหน้ามีความหวังอีกครั้ง ด้วยการสอนเทคนิคให้เขาก้าวข้ามความเจ็บปวด และใช้พลังของสมองและหัวใจเปลี่ยนชีวิต จน ‘จิม’ ได้กลายมาเป็นศาสตราจารย์และแพทย์ที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด การันตีว่าอ่านแล้วฮีลตัวเองได้ดีมาก เพราะเป็นหนังสือที่วง BTS ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง Magic Shop