บางคนจัดผิดตั้งแต่การวางตำแหน่งโต๊ะ เพราะถ้าเราวางโต๊ะไว้ในตำแหน่งที่แสงแดดส่องถึง มันจะช่วยให้เวลาอ่านหนังสือ หรือนั่งทำการบ้านสบายมากขึ้น แสงกลางวันจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ดีต่อสมอง เพราะแสงธรรมชาติเป็นแสงที่ดีกว่าสำหรับดวงตา การอ่านหนังสือจึงเป็นไปอย่างลื่นไหลและจบได้รวดเร็วกว่าแสงประดิษฐ์ที่มาจากหลอดไฟ เพราะแสงเหล่านั้นทำให้เจ็บตา ตาล้าได้ง่าย
น้อง ๆ คนไหนที่กำลังอยากจัดโต๊ะที่มีไฟตกแต่งเก๋ ๆ ควรเลือกแบบ Warm White นะ เลือกใช้ไฟหลอดตะเกียบที่มีแสงสีนวล (Warm White) และควรหลีกเลี่ยงหลอดไฟที่ให้แสงสีขาว (Cool Daylight) เพราะแสงจะจ้าเกินไปไม่เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือนาน ๆ หลักการที่สำคัญในการจัดตั้งโคมไฟอ่านหนังสือคือ "จะต้องวางอยู่มุมซ้ายของหัวโต๊ะ" (ซ้ายมือจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) เพื่อที่ไม่ให้แสงตกกระทบมาแยงสายตา และเป็นการลบเงาที่เกิดขึ้นระหว่างอ่านหรือเขียนหนังสือด้วย จะช่วยให้สามารถอ่านหนังสือได้อย่างสบายตาและนานยิ่งขึ้น
กระจกเนี่ย ช่วยชีวิตคนที่อ่านหนังสือ ทำการบ้านเหนื่อย ๆ มานักต่อนักแล้ว เพราะเวลาที่เราทำการบ้านเหนื่อย ๆ พอเงยหน้าขึ้นมามองตัวเองในกระจก แล้วยิ้มให้ตัวเอง 1 ทีก็จะช่วยลดความเครียดได้ เพียงแค่ยิ้มให้ตัวเอง และพูดสิ่งดี ๆ ให้ตัวเอง เช่น “สู้ ๆ อีกนิดเดียว” “หลังอ่านหน้านี้จบจะไปกินข้าว” แล้วยังเป็นมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ อัปลงโซเชียลได้ด้วย ทีนี้รู้ยังว่ากระจกบนโต๊ะอ่านหนังสือมีไว้ทำไม
ไม่ขอพูดเยอะในการจัดโต๊ะที่ต้องมีรูปโอปป้า เพราะนักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้ออกมาเผยว่า การมองรูปผู้ชายหล่อนั้นจะช่วยทำให้สมองมีการทำงาน และยังช่วยพัฒนาความจำได้ดีขึ้น โดยผลวิจัยชิ้นนี้ได้ถูกรายงานผ่านรายการ Discovering Life ทางช่อง KBS-1TV ใครอยากความจำดี ก็ให้เอารูปคนหล่อ ๆ สวย ๆ หรือศิลปินดาราที่เราชอบมาแปะไว้ที่โต๊ะอ่านหนังสือได้ สมองจะได้กระปรี้กระเปร่า สดชื่นกว่าปกติ
มาถึงน้อง ๆ ที่ชอบสีสันกันบ้าง รู้ไหมว่าถ้ามีสีสักหน่อยบนโต๊ะอ่านหนังสือจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีได้เช่น สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า เป็นสีโทนอุ่นและเย็นที่สื่อถึงพลังบวก ทำให้ทุกครั้งที่มองเห็นสีนี้แล้ว อารมณ์จะดีขึ้น มีกำลังใจมากขึ้น แต่ก็ควรจำกัดการใช้สีไม่ให้มากจนเกินไป เดี๋ยวตาจะล้าได้ เช่น จับคู่สีผ่านโต๊ะหรือเก้าอี้ และให้ระวังสีแดง อย่าให้มีบนโต๊ะมากเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกหิวได้
เทียนหอมไม่ได้เป็นแค่พร็อพเก๋ ๆ บนโต๊ะเท่านั้นนะ แต่การจัดโต๊ะที่มีเทียนหรือเทียนหอมจะพลิกการอ่านหนังสือแบบเดิม ๆ ให้พิเศษขึ้นมาได้ นอกจากจะสร้างบรรยากาศที่ดี ช่วยให้อยากอ่านหนังสือแล้ว กลิ่นจากเทียนหอมยังช่วยให้สมองผ่อนคลายอีกด้วย โดยเฉพาะกลิ่นลาเวนเดอร์, กลิ่นโรสแมรี่, กลิ่นซิตรัส, กลิ่นมินต์ เป็นต้น จุดไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย รับรองว่าอ่านหนังสือได้ยิงยาว ไม่มีล้าแน่นอน
รู้ไหมว่า ถ้าเราเลือกต้นไม้มาไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือได้ถูกแล้วล่ะก็ เราไม่จำเป็นต้องไปต่อแถวเข้าคิวอ่านหนังสือในคาเฟ่ให้เสียเวลาเลย ทุกคนสามารถสร้างบรรยากาศให้น่าอ่านง่าย ๆ เหมือนคาเฟ่ได้ด้วยต้นไม้ และต้นไม้ยังสามารถช่วยเรื่องการฟอกอากาศในห้อง ป้องกันปัญหาสายตา ลดความตึงเครียด ทำให้สมองปลอดโปร่ง เช่น กระบองเพรชจิ๋ว, ลิ้นมังกร, ซานาดู และพลูด่าง เป็นต้น
ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนขี้หลง ขี้ลืม แนะนำให้ลองเปลี่ยนมาจัดโต๊ะที่มีบอร์ดหรือกระดานดีกว่า โต๊ะอ่านหนังสือ ทำการบ้านควรมีพื้นที่สำหรับเขียนหรือแปะโน้ตที่ใช้เตือนความจำ หรือจดไอเดียเจ๋ง ๆ ระหว่างทำงานได้ อาจจะเลือกใช้เป็นแผ่นเพ็กบอร์ด, ตะแกรงเหล็ก, แผ่นไม้ก๊อก หรือกระดานดำ นอกจากจะช่วยให้เตือนความจำได้ดีแล้ว ยังเพิ่มความเก๋ให้กับโต๊ะอ่านหนังสือได้ง่าย ๆ อีกด้วย
อย่าให้ตัวเองเข้าข่ายพวก ‘มนุษย์โต๊ะรก’ เพราะโต๊ะอ่านหนังสือ ยิ่งทำให้สะอาดและเป็นระเบียบได้เท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อการอ่านและทำการบ้านมากขึ้นเท่านั้น ลองหาชั้นวางของมาวางหนังสือ กล่องพลาสติกใส่ปากกา หรือถาดเก๋ ๆ เอาไว้เก็บของบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ หาถังขยะมาไว้ใต้โต๊ะเพื่อจะได้ทิ้งขยะเวลาทำงาน อย่าให้มีขยะกองกันเป็นภูเขา เพราะมันอาจจะกระตุ้นให้เราเฉื่อยชาและขี้เกียจได้
หลายคนอาจจะฟังเพลงจากมือถือเวลาที่อ่านหนังสือ แต่พอเจอเพลงที่ไม่ชอบ ก็จะหยิบมือถือขึ้นมาเปลี่ยนเพลง แต่ก็เผลอเข้าไปเช็กโซเชียลแล้วยาวทุกที การมีลำโพงเล็ก ๆ ไว้ที่โต๊ะจะช่วยทำให้เรารอดจากการแอบเล่นมือถือได้ แถมปกติคนเรามักจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเวลาเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ การอ่านหนังสือและทำการบ้านก็ด้วย แต่เสียงเพลงจะช่วยลดระยะเวลาตรงนั้นและสร้างสมาธิให้กับเราได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ในเชิงบวก เพิ่มความสนใจและการจดจำด้วย
แหล่งข้อมูล
กลางวัน VS กลางคืน เวลาใดที่อ่านหนังสือแล้ว มีประสิทธิภาพมากกว่ากัน
แสงไฟที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ
"กลิ่น" สร้างสมาธิชั้นเยี่ยมตอนอ่านหนังสือ