Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Vocabulary: Product – Goods – Commodity ต่างกันอย่างไร

Posted By bongkot_jara | 03 มี.ค. 63
26,378 Views

  Favorite

ใครที่เป็นขาช้อปจะคุ้นเคยกับคำว่า Product เป็นอย่างดีใช่ไหมคะ โดยปกติแล้วสินค้าต่าง ๆ เรามักใช้คำว่า Product แต่วันดีคืนดี มาเจออีก 2 คำ คือคำว่า Goods กับ Commodity ซึ่งดูเผิน ๆ แล้ว ก็น่าจะแปลว่า สินค้า เหมือนกัน แล้วจริง ๆ มันเหมือนกันหรือต่างกันล่ะ วันนี้มีคำตอบค่ะ


Product

เริ่มจากคำแรกที่รู้จักกันดี Product แปลว่า สินค้า หมายรวมถึง สินค้าและบริการทั้งแบบจับต้องได้ และแบบที่จับต้องไม่ได้ ตัวอย่างสินค้าที่จับต้องได้ เช่น เสื้อผ้า โทรศัพท์ สบู่ ขนมปัง กาแฟ พัดลม ฯลฯ ก็คือของที่เราซื้อใช้ซื้อกินอยู่เรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ ส่วนสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เช่น ประกันชีวิต หุ้น กองทุนรวม ไฟฟ้า คลื่นโทรศัพท์ และสินค้าดิจิทัล

เผื่อว่าใครจะงงว่าเจ้าสินค้าดิจิทัล (Digital Product) คืออะไรกันนะ มันก็คือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้การดาวน์โหลด หรือ ใส่รหัสเพื่อเข้าใช้สินค้าหรือบริการเช่น ซอฟแวร์ (Software)แอปปริเคชั่น (Application) เพลงหนัง รูปภาพ E – Books, E-Coupon

ส่วน Product อีกอย่างที่แม้จะเป็นบริการ (Service) แต่เราก็สามารถใช้คำ Product ได้เช่นกัน เช่น การเสริมความงาม การตัดผม บริการจัดส่งของ บริการซักรีด ทำความสะอาด และแพ็คเก็จทัวร์


Goods

มาดูอีกคำค่ะ Goods คำนี้ ก็แปลว่าสินค้าเช่นกัน แต่ต่างที่ Goods หมายถึงเฉพาะสิ่งที่จับต้องได้เท่านั้น เช่น กระเป๋า เสื้อผ้า นาฬิกา ปากกา ฯลฯ  หรือพูดอีกอย่างได้ว่า Goods เป็น sub-set เป็นส่วนหนึ่งของ Product นั่นเองค่ะ ที่สำคัญมากและต้องไม่ลืมก็คือ Goods คำนี้ต้องเติม s ต่อท้ายและเป็นพหูพจน์เสมอค่ะ


Commodity

มาถึงคำสุดท้าย Commodity คำนี้แปลว่าสินค้าเช่นกันค่ะ ซึ่งบางครั้งเราจะเรียกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ หมายถึงสินค้าที่มีลักษณะเหมือนกันหรือต่างกันเล็กน้อยจนยากจะแยกออก ไม่ว่าจะซื้อจากเจ้าไหนก็ได้สินค้าแทบไม่ต่างกันเช่น ถ้าเราซื้อข้าวสาร จะซื้อเจ้าไหน ก็ได้ข้าวสารเหมือนกันและราคาแต่ละเจ้าก็แทบไม่ต่างกัน ไม่เหมือนกับโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นสินค้าที่มีหลากหลายรุ่น สารพัดแบบ ราคาก็แตกต่างกันไป

นอกจากนี้แล้ว Commodity หรือ สินค้าโภคภัณฑ์  ยังมีราคากลางที่กำหนดเป็นราคาซื้อขาย ซึ่งสามารถขึ้นลงได้ในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา บางอย่างก็อ้างอิงตามราคาตลาดโลก ดังนั้นCommodityจึงมักเป็นสินค้าทางเกษตรหรือเป็นวัตถุดิบหลักทางอุตสาหกรรมที่นำไปแปรรูปหรือเป็นส่วนประกอบเป็นสินค้าอื่น เช่น ข้าวแป้งสาลี มันสำปะหลัง น้ำตาล ยางพารา ทองคำ เหล็ก น้ำมันดิบ

ตัวอย่างประโยค
Coal is becoming a rare commodity.
(ถ่านหินได้กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่หายาก)

It would be better to transport the goods by rail rather than by road.
(ขนส่งสินค้าทางรถไฟดีกว่าทางถนน)

The catalogue gives a full description of each product.
(รายการสินค้าให้คำอธิบายรายละเอียดของสินค้าแต่ละอย่าง)

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • bongkot_jara
  • 19 Followers
  • Follow