แต่เครื่องฟอกอากาศที่มีมากมายตามท้องตลาดก็มีความแตกต่างกัน ทั้งวิธีการทำงาน ฟังก์ชั่นการใช้งาน และขนาดรูปร่าง ดังนั้น เราจึงควรมีหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพื่อให้ได้เครื่องที่ตรงตามความต้องการ และเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
เครื่องฟอกอากาศแต่ละยี่ห้อ แต่ละขนาด มีรัศมีการทำงานแตกต่างกัน ยิ่งห้องใหญ่เครื่องฟอกอากาศยิ่งต้องมีขนาดใหญ่ เพื่อให้รัศมีการทำงานกว้างครอบคลุมพื้นที่ทั้งห้อง ข้อแนะนำคือ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีรัศมีการทำงานมากกว่าขนาดห้อง เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทั้งห้องได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ยิ่งเครื่องฟอกอากาศมีความเร็วลมมากเท่าไหร่ การกรองอากาศและปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาก็จะยิ่งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ต้องแลกมากับอัตราการกินไฟที่มากขึ้นตามไปด้วย
ยิ่งค่า CADR ของเครื่องฟอกอากาศนั้น ๆ มีสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความสามารถในการฟอกสิ่งสกปรกในอากาศได้สูงมากขึ้นเท่านั้น
ฟิลเตอร์นี้จะช่วยดักจับฝุ่นได้สูงถึง 99.95% ทั้งยังช่วยดักจับเกสรดอกไม้ ไปจนถึงฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือผู้ที่กังวลเรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นอย่างมาก
ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้เรารู้เมื่อฟิลเตอร์กรองฝุ่นละอองใกล้เต็มหรือเต็มแล้ว เพื่อให้เราเปลี่ยนฟิลเตอร์ใหม่ การกรองฝุ่นจะได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ฟังก์ชั่นเสริมต่าง ๆ อาทิ การเชื่อมต่อ wifi เพื่อตรวจเช็คประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกรองฝุ่น, การดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์, ลดหรือเพิ่มความชื้นในอากาศได้, การดักยุง หรือดักจับเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ เป็นต้น ย่อมช่วยสุขภาพของเราดียิ่ง ๆ ขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบ้านว่าอยากได้เครื่องกรองฝุ่นแบบไหนไปตั้งอยู่ห้องใดบ้าง
ควรเลือกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ และตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด เพราะแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นและลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ควรพิจารณายี่ห้อที่มีการรับรองจากสถาบัน เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ และยืนยันว่าการทำงานของเครื่องฟอกอากาศนั้น ๆ ผ่านการทดสอบแล้วว่าได้ผลและมีประสิทธิภาพจริง
และต้องไม่ลืมว่าเครื่องฟอกอากาศควรมีการรับประกันสินค้า ทั้งตัวเครื่องและแผ่นกรองอากาศ หรือหากไม่มีการรับประกันแผ่นกรอง ก็ควรมีแหล่งซื้อแผ่นกรองสำหรับเปลี่ยนที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว