ส่วนมากมักเกิดขึ้นบนรถโดยสารสาธารณะ เช่น โดนลูบแขนขาบนรถเมล์ โดนเบียดหน้าอกบนรถไฟฟ้า บทสนทนาเรื่องเพศที่อึดอัดบนรถแท็กซี่ เป็นต้น คนที่ทำมักจะตีเนียนมาอยู่ใกล้ ๆ ตอนที่เราเผลอหรืออยู่คนเดียว ถ้าเจอแบบนี้ก็มั่นใจได้เลยว่ากำลังถูกคุกคามทางเพศระยะประชิดอยู่
จัดการอย่างไร = อย่านิ่งเงียบ
ก่อนอื่นให้หันไปมอง สังเกตว่าผู้กระทำมีอาวุธหรือเปล่า ถ้าไม่มีให้ส่งเสียงถามเขาดัง ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เขาทำกับเรา ใช้เสียงทำให้เขาตกใจกลัว และให้คนที่อยู่รอบข้างรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเขาจะเสียหลัก คนพวกนี้จะกลัวคนที่กล้าพูด สิ่งที่ห้ามทำเลยคือ ‘การเงียบ’ แล้วปล่อยให้เขาลูบคลำต่อไป เพราะอาจนำไปสู่การคุกคามที่รุนแรงขึ้น
เป็นการคุกคามทางเพศแบบยื่นหมูยื่นแมว เช่น เสนอให้ถอดเสื้อผ้า โชว์หน้าอก โชว์อวัยวะเพศเพื่อแลกกับคะแนน ไม่ต้องสอบตก เพิ่มเกรด ให้ทุนการศึกษา ฯลฯ ซึ่งคนคุกคามมักมีอำนาจมากกว่า พร้อมเสนอทุกอย่างเพื่อแลกมาซึ่งการขอให้ทำเรื่องทางเพศด้วย
จัดการอย่างไร = ปฎิเสธให้ชัดเจนว่าไม่โอเค
ปฏิเสธทันที อย่าเงียบ เพราะถ้าเราเงียบเขาจะคิดว่าเราตกลงกับข้อเสนอ ดังนั้นต้องปฏิเสธอย่างสุภาพก่อน เมื่อปฏิเสธแล้วควรเล่าให้คนในครอบครัวหรือคนที่เราสามารถพึ่งได้ฟัง เพราะไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า เขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเราอีก หรือโทรสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือ
บางคนอาจยังไม่แตกฉานกับคำว่ามุกตลกทางเพศ อยากให้นึกถึงประโยค ‘อย่าไปใกล้มันนะ มันชอบผู้ชาย’ หรือการไปถามคนที่เป็นเกย์ซ้ำ ๆ ว่า ‘เป็นเกย์หรือเปล่า’ และพวกผู้ชายที่พูดตลกกับผู้หญิงที่เป็นทอมว่า ‘ถ้าโดนสักครั้งก็คงหาย’ ทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นการคุกคามทางเพศในรูปแบบมุกตลก ซึ่งควรเลิกเอามาพูดเล่นกันได้แล้ว
จัดการอย่างไร = ไม่ขำและโต้กลับทันที
เพื่อเป็นการประกาศจุดยืนชัดเจนว่า ‘เราไม่ตลกด้วยนะ’ ก็ต้องทำให้เขารู้ว่าเราไม่ชอบใจที่เขาเอาเรื่องเพศสภาพของเราไปพูดล้อกันสนุกปาก เราอาจจะพูดอย่างสุภาพกับเขาว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเราควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเราไม่ชอบพูดเรื่องส่วนตัวกับใครที่ไม่สนิทด้วย
ความโรแมนติกจะหมดไปเมื่อวันหนึ่งแฟนคุณถามประโยคเหล่านี้ ‘ถ้ารักกันจริง ก็ต้องยอมมีอะไรด้วย’ ‘คนเป็นแฟนกันก็ต้องมีอะไรกัน เรื่องปกติ’ ‘ขอเถอะนะ วันนี้วันเกิดเรา’ ถ้าคบกันอยู่แล้วแฟนพูดแบบนี้ ถือเป็นการคุกคามทางเพศที่เลวร้ายมาก
จัดการอย่างไร = ถ้าต้องเลิกเพราะไม่ยอมมีอะไรด้วยก็เลิก !
เขาอาจจะเป็นคนที่เราคาดว่าจะมีอะไรด้วยในอนาคต แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้ ดังนั้นถ้าเรายังไม่พร้อมก็ต้องบอกให้ชัดเจนว่าเราไม่โอเค และถ้าเขาไม่ฟังก็ไม่ต้องกลัวจะเสียเขาไป เพราะการเป็นแฟนกันไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเอามาพูดเพื่อขอมีอะไรกับเราได้ ถ้าเจอแบบนี้สรุปได้เลยว่า เขาเป็นได้แค่คนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คู่ชีวิตที่ดีในอนาคตแน่นอน
ตามสถิติแล้ว เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีส่วนใหญ่ มักถูกคุกคามทางเพศจากคนรู้จัก ผู้กระทำอาจเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติผู้ใหญ่ พี่เลี้ยง พี่น้อง เพื่อนบ้าน โดยมักจะโดนแตะเนื้อต้องตัวเฉพาะเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้านหรือเวลาเข้านอน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะไม่กล้าปฏิเสธเพราะบางคนไม่รู้ว่านั่นเป็นพฤติกรรมคุกคามทางเพศ แต่จะคิดว่าผู้ใหญ่กำลังแสดงความรัก
จัดการอย่างไร = อย่าสู้เพียงลำพังเด็ดขาด
หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ตามลำพังกับผู้ที่คุกคามทางเพศเรา และควรเอาผิดทางกฎหมายให้ได้ ยิ่งผู้กระทำเป็นคนในครอบครัวความอันตรายยิ่งสูง เพราะเขาจะไม่หยุดง่าย ๆ ควรบอกผู้ใหญ่ที่ไว้ใจให้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าคนในครอบครัวไม่เชื่อ แนะนำให้โทรไปสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปรึกษาว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี และยังสามารถไปปรึกษาทนายหรือตำรวจท้องที่ได้ทุกเมื่อ
การคุกคามทางเพศในโลกออนไลน์จะไม่ก่อความเสียหายทางกายในทันที แต่จะส่งผลกระทบทางจิตใจและชื่อเสียง เช่น โดนคอมเมนต์คุกคามทางเพศ โดนไลน์มาตื้อ วิจารณ์รูปร่างผ่านคอมเมนต์ ส่งรูปลามก คลิปลามกมาให้ โทรมาพูดเรื่องลามก ขอมีอะไรด้วยทั้งที่ไม่รู้จักกัน รวมถึงการนำรูปเราไปตัดต่อเป็นรูปโป๊ มันรุนแรงไม่ต่างจากการคุกคามทางเพศในชีวิตจริงเลยล่ะ
จัดการอย่างไร = ไปแจ้งตำรวจภายใน 90 วัน
เซฟและก็อปปี้ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกคุกคามเก็บไว้ เพื่อเอาไปใช้ประกอบการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้บ้าน โดยต้องไปแจ้งความภายใน 90 วัน เพราะหากเลย 90 วันไปแล้ว อาจไม่สามารถตรวจสอบหาข้อมูลผู้ทำผิดมาดำเนินคดีได้