บางคนไม่รู้ว่าอัตราส่วนการตัดเกรดของแต่ละวิชาคือเท่าไหร่ คิดแค่ว่าถ้าทำคะแนนสอบให้ได้เยอะ ๆ เดี๋ยวก็ได้เกรดดีเอง นี่เป็นความคิดที่ผิด ! เพราะถ้าวิชานั้นมีอัตราส่วนการตัดเกรดอยู่ที่ 80:20 คือ จากคะแนนเก็บ 80 คะแนน และจากคะแนนสอบ 20 คะแนน ดังนั้นแม้เราจะทำข้อสอบได้เต็ม แต่ไม่เคยส่งการบ้านเลย ก็ไม่มีทางที่จะได้เกรดดี แต่บางวิชาก็จะใช้ 30:70 คือ ตัดเกรดจากคะแนนเก็บ 30 คะแนน จากคะแนนสอบ 70 คะแนน หมายความว่าถ้าเราทุ่มอ่านหนังสือจนสอบได้เต็ม เกรดก็จะอยู่ที่เกรด 3 ในวิชานั้น ๆ แน่นอน
ดังนั้นก่อนจะตั้งใจอ่านหนังสือสอบอย่างเดียว ให้ตั้งใจฟังครูแจ้งรายละเอียดเรื่องอัตราส่วนการตัดเกรดของแต่ละวิชาด้วย แล้วจะได้รู้ว่าควรทุ่มให้การสอบเท่าไหร่ ทุ่มให้การทำงานในห้องเพื่อคะแนนเก็บเท่าไหร่ แค่นี้ก็จะได้เกรดสวย ๆ มาแบบไม่มีเฟล
เกณฑ์การวัดเกรด
ระดับคะแนน 80-100 เกรด 4
ระดับคะแนน 75-79 เกรด 3.25
ระดับคะแนน 70-74 เกรด 3
ระดับคะแนน 65-69 เกรด 2.25
ระดับคะแนน 60-64 เกรด 2
ระดับคะแนน 55-59 เกรด 1.25
ระดับคะแนน 50-57 เกรด 1
อย่าประมาทคะแนนคุณลักษณะที่พึงประสงค์นะคะ เพราะมันตั้ง 10 คะแนนเชียว แถมยังได้มาง่าย ๆ ไม่ยากอะไรเลย แล้วคะแนนคุณลักษณะที่พึงประสงค์มาจากไหนบ้าง
มาทันเข้าแถวเคารพธงชาติ ไม่ขาด
• เช็กชื่อเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดในโรงเรียน
• มีจิตอาสา ช่วยงานโรงเรียน
• เข้าร่วมกีฬาสี สร้างความสามัคคี
• เข้าแข่งขันทางวิชาการ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน
• ส่งการบ้าน ทำการบ้านตรงเวลา
• ยกมือตอบครู เวลาครูถาม
• เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา เข้าค่าย
• ซื่อสัตย์ ไม่ลักขโมยของในโรงเรียน
• ไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทภายในโรงเรียน
• เชื่อฟังคำสั่งสอนของครู พูดจาสุภาพ
คะแนนคุณลักษณะที่พึงประสงค์อาจกลายเป็นคะแนนนางฟ้ามาช่วยชีวิตเรา ในกรณีที่คะแนนเราขาด สมมติทำคะแนนได้ 79 คะแนน (เกรด 3.5) ซึ่งอีก 1 คะแนนก็จะได้ 80 (เกรด 4) คะแนนส่วนนี้ก็จะอัพเกรดของเราให้พุ่งขึ้นไปอีกได้
มันมีจริง ๆ นะคนที่อ่านหนังสือเยอะมาก ย้ำว่าต้องเป็นคนที่ตั้งใจอ่านหนังสือก่อนสอบ แต่พอออกจากห้องสอบมาหน้าซีด รู้ชะตากรรมเลยก็มีค่ะ เพราะที่อ่านมามันไม่ตรงกับข้อสอบเลย เคล็ดลับที่จะทำให้เราอ่านตรงกับสิ่งที่สอบก็คือ อ่าน Course Syllabus หรือคำอธิบายรายวิชาของวิชานั้น ๆ เพราะแต่ละรายวิชาจะมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน หมายความว่า ถ้าเราเรียนวิชานี้ เราต้องเข้าใจเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งครูทุกคนต้องสอนตาม Course Syllabus ไม่เว้นแม้กระทั่งข้อสอบที่จะต้องออกตาม Course Syllabus เช่นกัน ดังนั้นให้ถามครูในกรณีที่ครูไม่ได้แจก Course Syllabus ในวันแรกที่เปิดเรียนเพราะมันสำคัญ ส่วนใครที่ครูแจกให้แล้ว แต่ไม่เคยสนใจ ได้มาก็ทิ้งขว้างทั้งที่มันเป็นแนวข้อสอบ ! ให้คิดใหม่นะคะ
ด่านสุดท้ายที่ทำให้หลายคนที่ควรจะได้เกรดดี ๆ ตกม้าตายก็คือ ทำร้ายตัวเองด้วยการอดนอนบ้างล่ะ ไม่ทานอาหารเช้าบ้างล่ะ ลืมสิ่งที่อ่านมาเสียดื้อ ๆ ก็มี สุดท้ายก็ไปกระทบกับการเรียน การสอบ ร่างกายไม่พร้อมเอาเสียเลยมันเกิดจากอะไร แล้วเราจะทำยังไงให้สมองของเราพร้อมตลอดเวลา
อาหาร - เน้นทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ทานปลาเยอะ ๆ ทานพวกบลูเบอร์รี โกจิเบอร์รี่ วอลนัท เต้าหู้ และอะโวคาโด เป็นต้น
ออกกำลังกาย - เน้นออกกำลังกายแบบแอโรบิก เพราะดีต่อสมองส่วนฮิปโปเเคมปัส ที่ทำหน้าที่ด้านความจำ ควรออกให้ได้ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
กิจกรรม - ออกไปพบเจอเพื่อน สังสรรค์ เฮฮา เล่นกับสัตว์เลี้ยง เรียนรู้สิ่งใหม่ เรียนภาษา อ่านหนังสือนอกเวลา
การนอน - นอนให้ได้ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะถ้าอดนอนสมองเราก็จะช้าลงเรื่อย ๆ และรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่าด้วย