คำแรก Cartoon (การ์ตูน) คำนี้มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาอิตาเลียน คือ Catone (คาโตเน่) ซึ่งแปลว่า กระดาษผืนใหญ่ ซึ่งเป็นวัสดุที่จิตรกรใช้วาดภาพในสมัยอดีต ในยุคเริ่มแรกการ์ตูนนั้นวาดขึ้นเพื่อล้อเลียนบุคคลสำคัญทางการเมือง หรือเป็นภาพแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้น เมื่อการพิมพ์เจริญก้าวหน้า ก็นำการ์ตูนมาตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ ต่อมาก็พิมพ์เป็นเล่มแยกต่างหาก จนพัฒนาเป็นสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ ภาพยนตร์ คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต จำนวนมากมายหลากหลายรูปแบบ คำนี้เราใช้เรียกการ์ตูนได้ทั่วไปทุกแบบทุกประเภท
ส่วนคำว่า Comics(คอมมิกส์) นั้นหมายถึง การ์ตูนที่วาดภาพลงในช่องสี่เหลี่ยม มีคำพูดในบัลลูน (speech balloon) และคำที่อธิบายเสียงที่เกิดขึ้นในภาพ เล่าเรื่องต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบมุ่งเน้นความตลกขบขันและให้ความสนุกตื่นเต้นเป็นหลัก การ์ตูนประเภทคอมมิกส์จากต่างประเทศที่มาเผยแพร่ในเมืองไทยในยุคแรกๆ ก็อย่างเช่น ติน ติน ผจญภัย และซุปเปอร์แมน พิมพ์เป็นเล่มสีสันสวยงาม ในขณะที่การ์ตูนคอมมิกส์จากญี่ปุ่นในยุคแรกๆ ที่นำมาเผยแพร่ในไทยสมัยก่อนนั้นจะตีพิมพ์เป็นรายสัปดาห์ โดยนำต้นฉบับจากญี่ปุ่นมาแปลแล้วรวมหลายๆ เรื่องอยู่ในเล่มเดียว ซึ่งทุกเรื่องจะไม่จบในเล่ม ต้องรอติดตามอ่านจากฉบับต่อไปในสัปดาห์หน้า เมื่อจบเรื่องจึงนำมาพิมพ์รวมเล่มวางจำหน่ายทั่วไป ซึ่งอาจจะมีความยาวตั้งแต่จบในตอนสั้นๆ หรือเป็นเรื่องยาว 5 เล่ม 10 เล่มจบ หรือหลายสิบเล่มจบ บางเรื่องพิมพ์ออกมาอย่างยาวนานเป็นสิบปีและยังไม่จบจนถึงปัจจุบันก็มี เช่น คำสาปฟาโรห์ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ส่วนการ์ตูนไทยในยุคอดีตที่เป็นที่นิยมก็เช่น ขายหัวเราะ หนูจ๋า ชัยพฤกษ์การ์ตูน
คำว่า Manga (มังงะ) หมายถึงการ์ตูนช่องของญี่ปุ่น มีความหมายเดียวกับ Comics นั่นเองค่ะ คำว่าManga เป็นภาษาญี่ปุ่น (漫画) แปลว่า "ภาพตามอารมณ์" เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีนักเขียนนักวาดการ์ตูนผลิตผลงานออกมามากมาย และมีการแยกประเภทการ์ตูนตามกลุ่มคนอ่านค่อนข้างชัดเจน เช่น โชเน็น คือ หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กผู้ชาย ส่วน โชโจ คือการ์ตูนสำหรับเด็กผู้หญิง มังงะได้รับความนิยมอย่างมาก มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ และแพร่หลายไปทั่วโลก มังงะเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ นอกจากจะนำไปทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ซึ่งมักจะใช้คำว่า the movie (เดอะมูฟวี่) ต่อท้าย เช่น โคนันเดอะมูฟวี่ โดเรมอนเดอะมูฟวี่ แล้วยังมีการสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้นักแสดงที่เป็นคนจริงๆ เช่น ดราก้อนบอลล์
คำว่า Anime (แอนิเมะ) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษคือคำว่า "แอนิเมชัน" (Animation) ซึ่งหมายความถึงเฉพาะภาพยนตร์การ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น โดยอาจนำมังงะที่ตีพิมพ์ในหนังสือแล้วมาแปลงเป็นภาพยนตร์ หรือสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดก็ได้ นอกจากนั้นแล้วยังมี Anime ที่แปลงมาจากเกมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ด้วย ตัวอย่าง Anime ที่นำมังงะมาแปลงเป็นภาพยนตร์การ์ตูน เช่น นารูโตะนินจาจอมคาถา เซเลอร์มูน เครยอนชินจัง วันพีซ
Animation(แอนิเมชั่น) มาจากรากศัพท์จากคำว่า Anima ซึ่งแปลว่า จิตวิญญาณ หรือมีชีวิต หรือก็คือ ภาพที่เคลื่อนไหวได้เหมือนมีชีวิต มีต้นกำเนิดจากประเทศทางตะวันตก โดยในช่วงแรกใช้การถ่ายทำแบบ Stop motion คือ การถ่ายภาพนิ่งโดยขยับท่าทางตัวการ์ตูนทีละเล็กทีละน้อย เมื่อนำมาฉายด้วยความเร็วก็ปรากฏเป็นภาพเคลื่อนไหวแก่สายตา ต่อมามีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก (Computer Graphic: CG) เข้ามาในการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนให้ภาพและเสียงคมชัด
ในปี 1928 Animation เริ่มเป็นที่รู้จัก เมื่อวอล์ท ดิสนีย์ได้ผลิตผลงานออกมาหลายเรื่องโดยเริ่มจาก มิกกี้เมาส์ ตามด้วย พลูโต กู๊ฟฟี่ โดนัลด์ ดั๊ก และมีการสร้างเป็นแอนิเมชั่นเรื่องยาวเรื่องแรก คือ สโนว์ไวท์และคนแคระทั้ง 7 และตามด้วยแอนิเมชันเรื่องอื่นๆ มากมาย เช่น พินอคคิโอ แฟนเทเชีย ดัมโบ้ แบมบี้ อลิซท่องแดนมหัศจรรย์ และปีเตอร์แพนเรื่อยมาจนถึง Toys Story ซึ่งเป็น Animation 3 มิติเรื่องแรกของโลก และต่อมา Animation ก็มีการพัฒนารายละเอียดต่างๆ ให้สมจริงมีมิติมากขึ้นตามลำดับจนถึงปัจจุบัน