เรื่องเกิดขึ้นราวศตวรรษที่ 4 เล่ากันว่า ในครานั้นมีนักบุญคนหนึ่งชื่อ (เซนต์) นิโคลัส สังฆราชแห่งเมืองไมรา เขาเป็นนักบุญที่มีจิตใจเมตตาเป็นอย่างมาก
วันหนึ่ง เซนต์ นิโคลัสนึกสงสารเด็กหญิงยากจนคนหนึ่ง เขาจึงปีนขึ้นไปบนหลังคา และหย่อนถุงเงินเล็ก ๆ ลงมาทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินนั้นได้ตกลงไปในถุงเท้าที่เด็กหญิงตากไว้ตรงเตาผิง ครอบครัวจึงนึกแปลกใจ และแอบดู จึงได้รู้ความจริงว่า เซนต์ นิโคลัสเป็นผู้ช่วยเหลือครอบครัวของตน และนี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นของซานตาครอสตัวจริง
หลังจากนั้น เมื่อเซนต์ นิโคลัสได้ดำรงตำแหน่ง บิชอฟ แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งสังฆราชแห่งเมืองไมรา (Myra) ท่านได้อุทิศตนให้คริสต์ศาสนาจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว เมื่อท่านมรณภาพ คริสต์ศาสนิกชนจึงได้สร้างโบสถ์เก็บรักษาร่างของท่านไว้ที่ เมืองไมรา แต่ต่อมา ได้มีการโจรกรรมกระดูกของเซนต์ นิโคลัส ไปไว้ที่เมืองบารี โดยโบสถ์ที่บรรจุกระดูกของท่าน กลายเป็นสถานที่ที่มีผู้คนไปเยือนอย่างล้นหลาม
ราวศตวรรษที่ 12 ชาวฝรั่งเศสได้กำหนดให้ 6 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันมรณภาพของเซนต์ นิโคลัส ให้เป็นวันเซนต์ นิโคลัส และมีการนำถุงเท้าที่ใส่ไปแขวนไว้หน้าบ้านของคนยากจน ก่อนจะถูกผนวกเข้ากับวันคริสต์มาสในเวลาต่อมาจวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้
หลายคนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ ! ถ้าซานตาครอสมีตัวตนจริง แล้วเขาขี่กวางเรนเดียร์ลอยฟ้าได้จริงหรือ ?
เรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการจ้า โดยเล่ากันว่ามีจิตรกรคนหนึ่งนามว่า "โธมัส นาสต์" (Thomas Nast) ได้วาดภาพซานตาครอสที่มีลักษณะเป็นชายแก่ตัวอ้วน มียานพาหนะเป็นกวางเรนเดียร์ขึ้นมา กลายเป็นภาพจำของซานตาครอสที่เรารู้จักกันมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้นั่นเอง