คุยไม่เก่ง เข้าสังคมไม่เป็น ถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้จะคุยอะไร ถือเป็นปัญหาโลกแตกของวัยรุ่นหลายคนที่อยากเข้าสังคมใหม่ ๆ ซึ่ง How To ต่าง ๆ ที่ได้เห็นหรือได้ยินมาอาจไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเราไม่ ‘กล้า’ ลองพูดคุยกับเพื่อนใหม่อยู่เรื่อย ๆ และคิดอยู่เสมอว่าเราทุกคนต่างก็เคยเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันมาก่อนทั้งนั้น มาดูศิลปะแห่งการชวนคุยให้ได้เพื่อนกัน

แรกเจอ เริ่มอย่างไรดี

Step 1
ทำหน้าตาให้เฟรนด์ลี่

คนเรามักจะตัดสินคนอื่นว่าเป็นคนอย่างไรตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เวลาเจอเพื่อนใหม่ให้พยักหน้าทักทาย ยิ้ม และสบตาอย่างเป็นมิตร ถือเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า คุยได้ไม่หยิ่ง ฉันเฟรนด์ลี่มากเลย

Step 2
พูดสิ่งที่เห็นและรู้สึก

นำสิ่งรอบตัวที่เราเห็นและรู้สึกมาพูด เรื่องที่ฮิต ๆ เช่น ชมเพื่อนใหม่ก่อน หรือสารภาพไปเลยว่าเรากำลังตื่นเต้นมาก การเปิดเผยความรู้สึกอย่างจริงใจจะทำให้ลดความกดดันระหว่างเราและเขาลงได้

Step 3
หงายการ์ดของเรา

คือการเล่าเรื่องราวของตัวเอง แต่ไม่ใช่พูดแต่เรื่องของตัวเองจนเป็นการเรียกร้องความสนใจนะ เล่าแค่สั้น ๆ ให้พอได้ทำความรู้จักกันก็พอ ตามด้วยถามเรื่องราวของเพื่อนใหม่ต่อเลย

Step 4
ถามสิถาม

เราต้องกระตุ้นให้อีกฝ่ายเล่าเรื่องราวบางอย่างออกมา ด้วยการถามคำถามที่ตอบง่าย ๆ เช่น เขาสนใจเรื่องอะไรบ้าง ชอบดูซีรีส์เรื่องไหน เลิฟไอดอลคนไหน ฯลฯ

ไม่เดดแอร์ด้วย Small Talk

Small Talk คือ การพูดคุยกันเรื่องเบา ๆ ที่ตอบได้ทันที แม้จะเป็นการคุยกันที่อาจจะไม่ได้สาระอะไรเลย แต่มันทำให้เรากระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ได้ดีเลยล่ะ และนี่คือ 4 หัวข้อแนะนำที่คุยแล้วไม่มีเดดแอร์แน่นอน

อาหาร
“แถวนี้อะไรอร่อย, ชอบกินอะไรเป็นพิเศษ, ทำอาหารเป็นไหม”
 

งานอดิเรก
“ว่าง ๆ ชอบทำอะไร, ชอบดูหนังแนวไหน, ชอบเล่นเกมไหม”
 

การเรียน
“จบจากโรงเรียนไหน, อยากเข้าคณะอะไร, เล็งมหา’ลัยไหนไว้”

การเดินทาง
“มาที่นี่ยังไง, บ้านอยู่แถวไหน, รถติดมากไหม”

How To เข้าสังคมฉบับคนคุย(ไม่)เก่ง

เมื่อรู้ Topic เรื่องที่จะคุยกันไปแล้ว ก็ถึงคิวของเทคนิคว่าจะคุยอย่างไรให้พอดี กลมกล่อม มีเสน่ห์และสนุก

พูดให้น้อย แต่อย่าเงียบ
เวลาคุยให้พยักหน้าประกอบและตอบโต้ด้วยคำว่า “อ๋อ, อืม, ดีจัง” เพราะมันให้ความรู้สึกว่าเราสนใจในตัวเขาจริง ๆ ฟังเพื่อนให้ได้มากที่สุด และพูดเป็นคนสุดท้ายของวงสนทนาก็ได้

DO : เปิดใจให้กว้าง ไม่ตั้งแง่กับใคร ไม่ต้องพรีเซนต์ตัวเองมาก
DON’T : พูดแต่เรื่องตัวเองจนคนอื่นไม่ได้พูดเลย

ไหลไปตามน้ำ
ถ้าเขาพูดเรื่องอะไร เราก็พูดเรื่องนั้นไปเรื่อย ๆ อย่าเปลี่ยนเรื่องปุ๊บปั๊บ แล้วการคุยกันจะไหลลื่น สนุกสนาน ดีเทลอย่างวัน เดือน ปี ชื่อ ถ้าลืมก็ปล่อยผ่านไป มันไม่ได้สำคัญนักหรอก

DO : ใช้คำถามต่อเนื่อง คือถามต่อในสิ่งที่เพื่อนตอบไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่เดดแอร์
DON’T : ไม่กอดอก ไม่เท้าคาง ไม่เท้าเอว ไม่มองไปทางอื่นระหว่างที่คุย
 

พกอารมณ์ขันไปเต็มที่
เมื่อเราเริ่มหัวเราะไปกับเขาหรือทำให้เขาหัวเราะได้ นั่นหมายถึงการเป็นพวกเดียวกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเล่นมุกเยอะเพราะบางคนก็ไม่ใช่คนตลก เป็นตัวเองไว้ ไม่ต้องฝืนมาก แค่มีอารมณ์ขันไปกับสถานการณ์ก็พอ

DO : เล่าเรื่องเปิ่น ๆ ตลก ที่สร้างสรรค์ เรียกเสียงหัวเราะได้
DON’T : มุกลามก ทะลึ่ง แซว เล่นตลกกับรูปร่างหน้าตาเพื่อน

เน้นความรู้สึกดี
จำครั้งสุดท้ายที่เราคุยกับใครแล้วรู้สึกว่าดีจังที่ได้คุยกับคนนี้ได้ใช่ไหม เราควรมอบความรู้สึกแบบนั้นกับเพื่อนใหม่ ควรทำบทสนทนาที่คุยกันให้มีความหมาย เน้นความสบายใจ ไม่ใช่โฟกัสแต่ว่าจะตอบอะไรเขา

DO : ใช้คำพูดเชิงบวก ชื่นชมกันและกัน
DON’T : แสดงความไม่เห็นด้วย วิจารณ์ ตัดสินผิดถูก

แหล่งข้อมูล

• Chris Anderson. TED Talks : The Official TED Guide to Public Speaking. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : Openworlds, 2560.

• 10 ways to have a better conversation. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2562 จาก www.ted.com

• How to master the art of small talk. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2562 จาก www.techly.com

• เพราะการ ‘ชิตอะแชต’ สำคัญ ศิลปะและเคล็ดวิชาของการ Small Talk. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2562 จาก https://thematter.co

เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี
ภาพประกอบ : รัฐจิตา รัชตขรกิจ