โรคคางทูม เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ติดต่อกันได้ทางการหายใจและการสัมผัสน้ำลายของผู้ป่วย พบในเด็กได้ทุกช่วงอายุ สำหรับผู้ใหญ่จะมีอาการรุนแรงและมีโรคแทรกซ้อนง่ายกว่าในเด็ก ในพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่หนาแน่น อาทิ โรงเรียน หากมีผู้เป็รโรคคางทูม ก็อาจส่งผลให้ติดต่อกันได้โดยง่าย
โดยปกติโรคคางทูมจะมีระยะฟักตัวประมาณ 16-18 วัน เมื่อเริ่มได้รับเชื้อจะมีอาการบวมประมาณ 1-3 วัน หลังจากนั้นอาการจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน อาการโดยทั่วไปของโรคคางทูม สังเกตได้ดังนี้
1. เจ็บต่อมน้ำลายบริเวณข้างหู อาจมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด
2. มีไข้สูงประมาณ 38 องศาเซลเซียส (หรือสูงกว่า)
3. ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
4. เบื่ออาหาร เพราะเวลาขยับขากรรไกรแล้วเจ็บ
5. ปวดตามข้อ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
1. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเปรี้ยว เพราะกรดจากอาหารหรือผลไม้อาจทำให้ต่อมน้ำลายเกิดการระคายเคืองได้
4. ประคบร้อนหรือเย็นบริเวณที่บวม
5. รับประทานอาหารอ่อน หรืออาหารเหลว เพื่อลดการเคี้ยวและการกระแทกบริเวณที่บวม
6. งดการไปโรงเรียนหรือไปทำงาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูม โดยการฉีดวัคซีน MMR (Measles-Mumps-Rubella Vaccine) ซึ่งการรับวัคซีนนี้จะเกิดขึ้น 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในเด็กอายุ 9-12 เดือน และครั้งที่ 2 ในเด็กอายุ 2.5 ปี หรือ 4-6 ปี
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย
3. รักษาสุขอนามัย คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ