เริ่มที่กลุ่มแรกเลยคือ Frugal และ Thrifty
ความหมายของสองคำนี้แปลว่าประหยัด ต่างกันเล็กน้อยตรงที่ Frugal จะค่อนข้างพูดในเชิงว่าไม่ได้ใช้เงินมากนัก หรือว่าใช้เงินน้อย ออกแนวว่าสมถะ แต่ Thrifty แปลว่าประหยัดเก็บออมเงินไว้มากกว่าจะใช้ไปกับสิ่งไม่จำเป็น เช่น
She lives a frugal life.
(เธอใช้ชีวิตอย่างสมถะ)
Mary’s thrifty tip is buying seasonal fruits and vegetables because it is cheaper.
(เคล็ดลับในการประหยัดของแมรี่ คือการซื้อผักและผลไม้ของฤดูนั้น ๆ เพราะว่าราคาถูกกว่า)
You should be frugal with money and save some for your retirement.
(คุณควรใช้เงินอย่างประหยัด และออมไว้เผื่อยามเกษียณ)
คราวนี้เราลองมาดูกลุ่มคำที่อยู่สุดของอีกฝั่งหนึ่ง นั้นคือกลุ่มคำเกี่ยวกับความตระหนี่จะใช้คำว่า penny-pinching หรือว่า nickel-and-dime ที่หมายความว่า ให้ความสำคัญมากเกินไปหรือว่าจดจ่ออยู่กับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าเป็นภาษาไทยก็เรียกว่าประหยัดแบบนับกันถึงเศษสตางค์กันเลยค่ะ เช่น
I am not trying to be nickel-and-dime, but I need to be strict with my spending.
(ฉันไม่ได้อยากตระหนี่ขนาดนี้แต่ว่าฉันต้องควบคุมค่าใช้จ่าย)
I do not like his penny-pinching friend.
(ฉันไม่ชอบเพื่อนนิสัยตระหนี่ของเขาเลย)
Frugal และ Thrifty มีความหมายในเชิงบวก ในขณะที่ penny-pinching หรือว่า nickel-and-dime มีความหมายในเชิงลบ
สำหรับพฤติกรรมขี้เหนียวจะใช้สองคำนี้ Cheap และ Stingy ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกัน มีความหมายว่า unwilling to spend money หรือว่าเงินไม่หลุดจากกระเป๋านั่นเอง เรียกง่าย ๆ ว่าขี้เหนียว หรือ งก เช่น
The company was too stingy to raise salaries for its employees.
(บริษัทขี้เหนียวเกินกว่าจะขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานของตัวเอง)
Don't be cheap! You have to buy good quality tires for your car.
(อย่าขี้งกนักเลย เธอต้องซื้อยางรถยนต์ที่มีคุณภาพสำหรับรถเธอสิ)
Dad! Please do not be cheap on mom’s present. หรือ Dad! Please do not be stingy on mom’s present.
(พ่อคะ อย่างกเวลาซื้อของขวัญให้แม่สิคะ)
She is cheap. She allows us to use only one napkin at dinner. หรือ She is stingy. She allows us to use only one napkin at dinner.
(เธอเป็นคนขี้เหนียวเธอยอมให้เราใช้กระดาษเช็ดปากคนละแผ่นเท่านั้นตอนทานอาหารมื้อเย็น)
Fred is too cheap to go to an expensive restaurant. หรือ Fred is too stingy to go to an expensive restaurant.
(เฟรดขี้เหนียวมากเกินกว่าจะไปทานอาหารในร้านแพง ๆ)
คำว่า Cheap ในบางครั้งก็นำมาใช้บอกถึงความใจกว้างได้ด้วย ถ้าเราบอกว่าคน ๆ นั้นเป็นคน Cheap ก็หมายความว่าเขาใจแคบ หรือว่าไม่มีความใจกว้างเลย เช่น
Our boss is so cheap. He gave us 2% bonus even though the sale volume increased 25%.
(เจ้านายเราใจแคบมาก เค้าให้โบนัสแค่ 2% ถึงแม้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นตั้ง 25%)
Sean is not a cheap person. He buys his coworkers drinks every time they go out.
(ฌอนเป็นคนใจกว้างเค้าเลี้ยงเหล้าเพื่อนร่วมงานทุกครั้งที่ออกไปสังสรรค์กัน)
ข้อควรระวัง : I am buying cheap things.(ฉันซื้อของถูก) กับ I am cheap. (ฉันเป็นคนขี้งก) ต่างกันโดยสิ้นเชิง จะใช้ cheap แบบไหนต้องดูดี ๆ นะคะ