ถึงแม้ในยุคปัจจุบันขนมหวานจากต่างประเทศจะมีอิทธิพลมากในประเทศไทย ตามที่เห็นกันว่ามีร้านดังจากประเทศนั้นประเทศนี้เข้ามาเปิดสาขาในไทยอย่างไม่ขาดสาย แต่ท้ายที่สุดแล้วคนไทยอย่างเราก็อดนึกถึงรสชาติหวานหอมละมุน และความประณีตสวยงามของขนมไทยไม่ได้ โดยเฉพาะขนมไทยสูตรโบราณตำรับชาววังที่หาทานยากในปัจจุบัน แต่ก็ใช่ว่าจะหาทานไม่ได้เลยซะเมื่อไหร่ เพราะวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับร้านขนมไทยที่มีภาพลักษณ์ทันสมัยเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย
มารี่ (Marie) ร้านขนมไทย กับคอนเซ็ปต์ Truly Thai Taste ผสมผสานเอกลักษณ์ความงามของสีสันและลวดลายของค์ประกอบดอกไม้ไทย 4 ชนิด ได้แก่ กุหลาบมอญ มะลิ ชมนาด กระดังงา มาบอกเล่าเรื่องราวของขนมไทย ผ่านฝีมือของ เชฟวรพล อิทธิคเณศร หรือเชฟโธมัส Executive Chef เจ้าของเพจ Thomaslovecooking และเพจตำรับข้างวัง
สำหรับชื่อร้าน มารี่ นั้นมาจากบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นผู้คิดค้นขนมไทยในสมัยก่อน ที่มีชื่อว่า มารี กีมาร์ (Marie Guimar) หรือท้าวทองกีบม้า โดยร้านได้นำชื่อเรียกสั้น ๆ “มารี่” มาตั้งเป็นชื่อร้านนั่นเอง
ตัวร้านตกแต่งด้วยโทนสีชมพูเป็นหลัก มีความทันสมัย ให้อารมณ์เหมือนนั่งจิบชาที่คาเฟ่ชิค ๆ มีโต๊ะที่นั่งให้ 2 ที่ เมนูขนมมีทั้งซื้อกลับและรับประทานที่ร้าน และเมนูที่เราได้ลิ้มลองในวันนี้ มี 4 อย่างด้วยกันค่ะ
ชุดขนมไทยพร้อมชาสมุนไพร โดยขนมไทยในชุดนี้แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนเรียกว่า เครื่องทอง เปรียบเสมือนขนมในวัง ได้แก่ ฝอยทองรังไหม ทองหยิบ ดาราทอง ทองเอก เสน่ห์จันทร์ รสชาติโดยรวมไม่หวานมาก เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น ส่วนชั้นล่างเป็นขนมไทยประยุกต์พื้นบ้าน ได้แก่ ขนมเกสรดอกชมพู่มะเหมี่ยว ขนมกลีบลำดวนจากน้ำมันมะพร้าว แตงโมปลาแห้ง และข้าวเหนียวหน้าไข่แมงดาเทียม
ในส่วนของชาสมุนไพรเป็นชาเกสรดอกบัวหลวง โดยชุดชาจะเสิร์ฟมาพร้อมกับนาฬิกาทราย เมื่อทรายหล่นลงมาหมดก็แปลว่าชาได้ที่แล้ว รสชาติจะพอดีไม่มีเศษขมเกินไป มีกลิ่นหอม เหมาะกับการทานหลังขนมไทย นอกจากชาเกสรดอกบัวหลวงแล้ว ที่ร้านมีชาให้เลือกอีก 2 แบบ คือ ชากุหลาบ ชามะลิ
ขนมไทยโบราณที่หาทานได้ยาก ทางร้านใช้ทุเรียนหมอนทองพันธุ์ดีที่แก่เต็มที่แต่ไม่เละ นำมาเคี่ยวในน้ำเชื่อมแบบโบราณ เชื่อมจนหมดถ่าน รับประทานคู่กับกะทิที่คั้นด้วยน้ำลอยดอกมะลิ เนื้อสัมผัสคล้ายสาเกเชื่อม มีความแน่นเนียนนุ่มหอมหวาน กลิ่นทุเรียนไม่แรงมาก ทานได้เรื่อย ๆ ไม่เลี่ยน สำหรับเมนูนี้มีให้ทานถึงแค่วันที่ 31 ก.ค. 62 นี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องรออีกทีปีหน้าเลย เพราะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล
กระท้อนทรงเคี่ยว หรือกระท้อนทรงเครื่อง ฉบับมารี่ เคี่ยวด้วยน้ำตาลโตนดหรืน้ำตาลเที่ยงคุณภาพดีจากเมืองเพชรบุรี คลุกเคล้ากับมะพร้าวทึนทึกคั่วเตาถ่าน กระท้อนที่ใช่เป็นกะท้อนปุยฝ้ายเนื้อฟูเบา รสเปรี้ยวอมหวาน โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วบดหยาบและกุ้งขาวทะเลแห้ง ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว วิธีรับประทานให้ราดน้ำตาลจนทั่ว ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้น้ำตาลซึมเข้าเนื้อกระท้อน จะได้รสที่กลมกล่อม ตัวน้ำตาลไม่เหนียวข้นเหมือนร้านตามตลาดนัด
เมนูนี้จะเป็นการนำเสนอขนมไทยร่วมกัน 2 เมนู คือ ขนมอาลัวรูปทรงดอกไม้ และข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ใช้ชื่อว่านารีจำแลงก็เพราะ เมนูที่เป็นผลไม้จะหมุนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น บางช่วงอาจจะใช้มะยงชิด เป็นต้น เมนูนี้ต้องยกให้อาลัวคือตัวเอกของจาน ด้วยหน้าตาสวยงามประณีตทำออกมาเป็นรูปดอกไม้แล้ว รสชาติยังหวานหอมกำลัง ไม่หวานแหลม กรอบนอกนุ่มใน เนื้อเนียนนุ่มละมุนไปกับลิ้นเลยทีเดียว
------------------------------
มารี่ (Marie)
ที่ตั้ง : The Market Bangkok ราชประสงค์ ชั้น G โซน M1