แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดสิวที่หลัง มักเกิดจากการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอจนทำให้เกิดเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกตกค้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดเป็นสิวที่หลังได้ เช่น กรรมพันธุ์และฮอร์โมน, อาหาร, ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิว, เสื้อผ้าที่สวมใส่, ผ้าปูที่นอนไม่สะอาด เมื่อเราพอรู้สาเหตุเบื้องต้นในการเป็นสิวแล้วเราก็มาดูวิธีรักษากันค่ะว่าควรทำยังไงบ้าง
หมั่นทำความสะอาดผิวพรรรณให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของสิว รวมถึงหมั่นขัดผิวเบา ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจขัดด้วยใยบวบ หรือขัดด้วยเกลือขัดผิวก็ได้ค่ะ จะช่วยขจัดเซลล์ผิวและลบเลือนรอยสิวที่หลังได้เป็นอย่างดี แต่ควรงดขัดผิวตอนที่เกิดสิวอักเสบ เพราะจะยิ่งทำให้ระคายเคือง และสิวเห่อมากขึ้น
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของทอด ของมัน และของหวาน แต่ควรเน้นรับประทานพวกผักและผลไม้ที่มีวิตามินช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส รวมถึงดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ทีทรีออยล์ มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวได้ โดยใช้สำลีก้อนกลมหรือคอตตอนบัดจุ่มทีทรีออยล์ จากนั้นนำมาแตะ ๆ บริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวและรอยแดงดูจางลง
นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลว ๆ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยดินสอพองจะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบและแห้งลง ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และทำให้รอยสิวจางลงอีกด้วย
ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้ มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง หรืออาจนำเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา และผงขมิ้นชัน ผสมเข้าด้วยกัน และนำมาทาที่หลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้สิวอักเสบลดลง และยังช่วยลดรอยสิวได้อีกด้วย