สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านblogนี้นะคะ เราชื่อพราว(อตินุช มนัสศิริเพ็ญ) กำลังจะขึ้นม.6 และได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การฝึกงานอาชีพครีเอทีฟโฆษณากับโครงการ "ทำ ก่อน ฝัน - The Dream Explorers รุ่นที่ 4" ค่ะ สำหรับ blog นี้เราจะมาแชร์ข้อมูลคร่าว ๆ ของอาชีพนี้และประสบการณ์ 5 วันที่เราได้ไปฝึกงานในฐานะของครีเอทีฟโฆษณาให้ฟังกันค่ะ
ครีเอทีฟโฆษณา คือผู้สร้างสรรค์โฆษณาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพราะลูกค้ามีสินค้าอยู่ในมือ แต่ครีเอทีฟโฆษณาเนี่ยจะเป็นคนที่จะคอยคิดว่าทำอย่างไรสินค้านั้นถึงจะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ โดยถ่ายทอดออกมาผ่านตัวโฆษณา เรียกได้ว่าครีเอทีฟโฆษณาเนี่ยเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและผู้บริโภคเลยล่ะ โดยครเอทีฟโฆษณาจะแบ่งย่อย ๆ เป็น 2 ฝ่าย มี Copy Writer เป็นคนที่คอยเขียนตัวบทโฆษณา และ Art Director ที่เป็นคนกำกับภาพของตัวโฆษณานั้น ๆ
ครีเอทีฟโฆษณานอกจากอยู่ในออฟฟิศเป็นหลัก หรือคอยประชุมงานในห้องประชุมแล้ว บางทียังต้องออกไปคุยงานกับลูกค้าด้วย แต่จริง ๆ แล้วคือครีเอทีฟโฆษณาจะทำงานที่ไหนก็ได้ เช่น การออกไปเที่ยวก็อาจจะทำให้เราคิดงานออกก็ได้ ตราบใดที่เราคิดงานออก
-ลูกค้า สำคัญมาก ไม่มีลูกค้าก็ไม่มีโจทย์มาให้คิด ถ้าลูกค้าเซย์โนว ก็ต้องเอากลับไปคิดใหม่
-Client Service ฝ่ายนี้ภาษาไทยเรียกประมาณว่าลูกค้าสัมพันธ์ เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและครีเอทีฟอีกทีหนึ่ง
-Strategic planner ฝ่ายนี้เป็นฝ่ายกลยุทธ์ คอยวางงบประมาณ หรือวางแผนว่าลงโฆษณาที่ไหนถึงจะดีสำหรับสินค้าตัวนี้
-Production House ขั้นตอนสุดท้ายที่จะมีโฆษณาออกมาก็คือการถ่ายทำ บางครั้งครีเอทีฟต้องไปคอยดูงาน หรือไปออกกองด้วย
-มีความคิดสร้างสรรค์
-ชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ติดตามข่าวสาร
-มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำงานเป็นทีมได้
-มีความอดทน
-ทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์
-การทำงานไม่เครียด (แต่ถ้าโดนสั่งให้มาแก้งานใหม่หรือคิดงานไม่ออก ก็เครียด...)
-ได้ออกไปนอกสถานที่ ไปคุยงานกับลูกค้า เจอคนใหม่ ๆ
-เป็นคนทันโลก รู้เยอะ
-เวลาทำงานไม่แน่นอน
-ไม่มีส่วนตัว เพราะอาจจะต้องใช้เวลาคิดงานเยอะ
วันนี้จะเป็นคล้าย ๆ เวิร์คช้อปสั้น ๆ ให้เราได้มารู้จักกัน โดยจัดที่บริษัททรูเลย งานนี้พี่ ๆ ก็พยายามที่จะให้เรา set gold ของเราว่าอนาคตของเราจะเป็นยังไง ให้เราพยายามคิดถึงสิ่งที่อยากทำหรืออยากมี แล้วมุ่งเป้าหมายไปในอนาคต ทิ้งท้ายด้วยคำว่า ก่อนจะฝัน ต้องลงมือทำ (ของเค้าดีจริง ต้องไปลองดู)
วันแรกของการฝึกงาน ที่ทำงานของเรามีชื่อว่า Rabbit's Tale เป็น Full-service Agency ตั้งอยู่ตรงถนนบรรทัดทองใกล้ I'm Park ถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทนี้แนะนำลองไปดูในรายการ perspective
แนะนำเพื่อน ๆ หน่อย เราได้เจอเพื่อน ๆ ที่มาฝึกงานด้วยกัน 4 คน (จริง ๆ เจอตั้งแต่วันเวิร์คชอปแล้วแหละ55555)
แนะนำจากซ้ายไปขวา ยะ ฝ้าย ข้าวปั้น และบวมสุดคือเราเอง
ช่วงเช้าเราได้ไปเจอกับพี่ HR สองคน ชื่อพี่แชมป์และพี่ตุ๊กติ๊ก พี่ทั้งสองคนมาแนะนำเกี่ยวกับบริษัทแรบบิทนี้ และก็แนะนำบุคคากรต่าง ๆ นอกจากนั้นพี่ตุ๊กติ๊กยังพาเราไปเดินทัวร์รอบบริษัททั้งข้างในและข้างนอก เดินดูร้านอาหารและแผนกต่าง ๆ ครบเครื่องในครึ่งวัน55555555 จำได้ว่าคำถามที่โดนถามบ่อยที่สุดในวันนั้นคือ..... "ทำไมถึงอยากมาเป็นครีเอทีฟโฆษณาล่ะ" ถ้าใครที่ผ่านมาเห็นแล้วจะต้องไปฝึกงานแบบนี้ เตรียมตัวกับคำถามนี้ไปดี ๆ นะคะ ทุกคนล้วนถาม
พอตอนบ่ายนี่ก็คือของจริงแล้วค่ะ เราได้เจอกับพี่ตะวัน ที่จะคอยสอนเราตลอด 5 วันนี้ พี่ตะวันเป็น Associate Creative Director ของที่แรบบิลเทล แล้วเราก็ยังได้เห็นการทำงานของครีเอทีฟโฆษณาที่พี่ ๆ ต่างชิลกัน(แต่ตอนคิดงานก็จริงจังนะเออ) พอเจอหน้าครีเอทีฟกันเสร็จปุ๊บก็มอบหมายงานแรกให้เลย โดยการให้ไปคิดหา adjective อะไรก็ได้ แล้วให้ขยายความจากอันนั้น 20 อย่าง เช่นของเราเลือกหอม ก็ หอมเหมือนทุ่งดอกไม้....... ซึ่งโดนแก้เยอะมาก พี่ตะวันบอกพวกเราว่า โฆษณาที่ดีพอเห็นแล้วจับคอนเซปต์ได้เลยว่าต้องการจะสื่ออะไร พร้อมกับมีการบ้านให้ไปคิด product จากสิ่งที่เราเลือก
วันที่สองเราได้เรียนรู้เรื่องระบบการทำงานของครีเอทีฟจากพี่นก project manager และพี่ภัทร Art Director พี่ ๆ สองคนเล่าให้เราเห็นถึงโฆษณาที่กว่าจะมาเป็นโฆษณา ทั้งสองพี่พูดถึงว่าโฆษณาแต่ละตัวจะต้องผ่านหลายแผนกมาก ๆ ทั้งลูกค้า ส่งต่อให้ Client Service ต่อให้ Strategic Planner และถึงจะถึงมือครีเอทีฟ เพราะครีเอทีฟจะเป็นคนคอยคิด How to say ว่าโฆษณาจะถ่ายทอดออกมายังไง วันนี้ก็มีงานอีกแล้ว พี่ตะวันให้เราเอา product มาลองทำเป็น print ads แถมยังให้สลับ product กับเพื่อนอีกกกกก(พี่คิดว่าหนูมาmasterchefหรอคะ....หยอกๆ55555) ซึ่งขอบอกว่าเรามั่วมาก แต่ก็ได้เรียนรู้ว่า print ads ที่ดีจะต้องสื่อให้คนเข้าใจเหมือนเดิมนั่นแหละ สำคัญมาก
เมื่อวานพี่ตะวันบอกให้เราไปหาโฆษณาที่เราชอบและไม่ชอบมาอย่างละ 1 ตัว แล้วให้มาบอกว่าเพราะอะไร ทำไมถึงชอบและไม่ชอบ วันนี้เราก็ได้เรียนรู้ถึงการทำโฆษณาที่ดีว่าควรเป็นอย่างไร หรือโฆษณาที่ไม่ดีจะเป็นยังไง เคยดูโฆษณาบางตัวแล้วรู้สึกว่าอีหยังวะ.....กันบ้างมั้ยคะ ถ้ารู้สึกอย่างนั้นแสดงว่าโฆษณานั้นยังตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ไม่เพียงพอ หรือยังไม่สื่อถึงตัว product ได้มากขนาดนั้น แต่โฆษณาที่ดีก็ไม่จำเป็นที่ต้องพุ่งไปแต่ขายของ แต่อาจจะเป็นโฆษณาที่สะท้อนอะไรสังอย่างแก่สังคมและผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย โอว้ ลึกซึ้ง อีกอย่างหนึ่งคือวันนี้เราได้ลองไปดูการถ่ายทำ web content ของ mango zero ที่อยู่ในเครือของบริษัท The zero ในเครือของ Rabbit digital group ด้วยค่ะ และการบ้านอันใหญ่หลวงในวันนี้คือ....ให้ไปคิดโฆษณามา ภายใต้โจทย์ "นิชชิน คัพ นูเดิ้ล อร่อยงานภายใน 3 นาที" (แต่เรายังไม่คิดค่ะ ไปดู end game ก่อน เข้าวันแรกด้วย5555555)
สำหรับวันที่นี้เราต้องเสนอโฆษณาในรูปแบบของ story board เกี่ยวกับนิชชินนั่นแหละค่ะ แล้วพี่ตะวันก็จะมาคอมเม้นของแต่ละคนพร้อมให้คำแนะนำ ทำให้เราได้รู้ถึงความยากลำบากก่อนที่ครีเอทีฟจะคิดงาน ๆ นึงขึ้นมาเลยล่ะ เสร็จงานนี้พี่ตะวันก็ให้เราคิดนวัตกรรมอะไรบางอย่างที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมขึ้นมา โดยมีพี่บาส Copy writer คอยไกด์ทางและให้คำปรึกษาเราอยู่ จากนั้นพวกเราก็ลงมือคิด งานนี้ทำให้เรารู้ว่าชีวิตเราเองแต่ละวันก็พบเจอกับปัญหา ถ้ามีนวัตกรรมที่เราคิดมาช่วยก็น่าจะดีไม่น้อย นี่เองก็เป็นรูปแบบของโฆษณาหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคมเหมือนกัน
วันนี้เป็นวันสุดท้าย แต่ก็ยังมีอะไรให้เราทำ พี่ตะวันให้เราหาปัญหาอะไรมาก็ได้แล้วหาวิธีแก้ไข ประมาณว่าเราจะสามารถหาทางแก้ได้ไหม เพราะงานโฆษณาเองก็คือการหาทางแก้ปัญหาของลูกค้าและผู้บริโภคเหมือนกัน(ลึกซึ้ง) แล้วยังได้คำแนะนำจากพี่เพ็ชร strategic palnner ด้วย วันนี้ตอนกลางวันพี่แชมป์และพี่ตุ๊กติ๊กเลี้ยงข้าวเราด้วย อิ่มอร่อยเลย พอตอนบ่ายก็มีพรีเซ้นต์งาน และมอบเกียรติบัตร เป็นอันเสร็จจบพิธีการฝึกงานกับโครงการ ทำ ก่อน ฝัน - The Dream Explorers รุ่นที่ 4 อาชีพครีเอทีฟโฆษณาของเรา
สุดท้ายแล้วเรามีคำคมเล็ก ๆ ที่เราได้มาจากการทำงานนี้
-พี่ตะวันได้กล่าวไว้ เราชอบมากเพราะมันกระตุ้นให้เราขยัน555555-
ก็ประมาณนี้แหละค่ะ ไม่ใช่แค่กับอาชีฟครีเอทีฟโฆษณาเท่านั้น แต่ใครที่สนใจจะทำอะไรก็ตาม ลองทำเถอะค่ะ แล้วเราจะได้รู้ว่ามันเหมาะกับตัวเราจริงไหม และเราชอบมันแค่ไหนบ้าง
ขอขอบคุณทรูปลูกปัญญาและพี่ rabbit's tale ที่ให้ประสบการณ์ดี ๆ มากค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ เราหวังว่า blog นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย :)