นี่คือความคิดของเราก่อนที่จะได้เข้าร่วมโครงการ "ทำก่อนฝัน" มันก็เป็นความคิดที่ถูก แต่เพียงแค่ครึ่งเดียว คือที่บอกว่านักเขียนต้องเขียนหนัังสือ ใช่!! เป็นนักเขียนจะให้ไปดำน้้ำหรอ ก็ไม่ได้เนอะ5555
แต่ที่บอกว่านักเขียนวันๆไม่ได้ออกไปไหนเอาเเต่เขียนงานอยู่ในห้องนั้น พอลองทำดูแล้ว อือหืออ เราคิดเเบบนั้นไปได้ยังไงว้าา555 งานของนััััััักเขียนจริงๆเเล้ว การลงพื้นที่สำคัญมากเพราะการที่จะทำงานเขียนได้สักเรื่อง เราต้องหาข้อมูลจากทุกๆทาง เพื่อความน่าเชื่อถือของผลงาน เเละการลงพื้นที่จริงนี่เเหละคือเเหล่งข้อมูลชั้นเลิศ!! พูดไปเหมือนเป็นอะไรที่ซีเครียสเนอะ เเต่จริงๆเเล้วมันสนุกม้ากมาก เพราะบางพื้นที่เป็นชนบท ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ รถวิ่งทีทำเอาฝุ่นตลบหน้าตลบหลัง ซึ่งมันท้าทายความพยายามหาข้อมูลของเราสุดๆ หากเราไม่ยอมเเพ้ มันก็เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ดีทริปหนึ่งเลยล่ะ เฮ้ยๆ เเต่มันก็ไม่ได้มีเเค่พื้นกันดารนะ! สถานที่สวยๆ วิวดีๆ ที่รอให้เราเก็บข้อมูลมีอีกถาถมไป อันนี้เเล้วเเต่คนจะเลือกทำเนอะ
สำหรับเรา อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่ท้าทาย เพราะต้องเขียนหนังสือให้คนอ่านเข้าใจสิ่งที่จะสื่อ (ทั้งๆที่เราพูดยังจะไม่รู้เรื่องเลย55) อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดเเละยากที่สุด คือจะทำยังไงให้ผู้อ่านสนใจเเละเลือกซื้อหนังสือของเรา เลือกหยิบหนังสือของเรา ทั้งๆที่มีหนังสืออีกมากมาย ล้านล้านล้านกว่าเล่มนับไม่ถ้วน รอให้เขาอ่าน ดังนั้นหนังสือเราต้องมีจุดเด่นที่หนังสือเล่มอื่นไม่มี เเล้วต้องทำอย่างไรล่ะ?? (ถ้าเข้ามาค่ายนี้คุณจะได้รู้เเน่นอน!!)
อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่มีทั้งความง่ายและยาก แต่มันขึ้นอยู่กับตัวเราที่จะทนความยากนั้นได้หรือไม่ หากชอบอาชีพนี้จริงๆ เราอยากขอให้ลองเผชิญกับมันก่อน โดยการก้าวเข้ามาค่ายนี้! แต่ถ้ามันไม่ใช่ก็ค่อยถอยออกมา ไม่มีใครบังคับความคิดเราได้หรอก อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำ เเค่นี้เอง!
ดังนั้นน้องๆทำก่อนฝัน รุ่นที่ 5 ที่ชอบหรือสนใจอาชีพ "นักเขียน" ก็อยากให้ลองมาค่ายนี้ก่่่่่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะประกอบอาชีพนี้ในอนาคตหรือไม่ หากใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาค่ายนี้ดีมั้ย ก็อย่าเพิ่งรีบปิดหนีกันไปไหนน้าาา ลองมาอ่านบล็อคเค้าก่อนเซ่ นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเองงงง
ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อ นางสาวภัทรลดา เปี่ยมประดาษ ชื่อเล่น ลดา เราเรียนอยู่ชั้น ม.4 ขึ้น ม.5 รร.เบญจมราชาลัยฯ จ้าาาา
ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงเลือกอาชีพนี้ (หรืออาจจะไม่สงสัย แต่เราขอตอบหน่อย55) ก็เพราะ ในตอนเเรกเราอยากเข้าคณะอักษรศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ซึ่งคณะนี้จบมาเเล้วมีอาชีพหลากหลายให้เลือกทำ หนึ่งในนั้นก็คืออาชีพ "นักเขียน" นี่เเหละ
บวกกับส่วนตัวชอบทำงานอยู่กับตัวเอง ชอบนั่งคิดนั่งเขียนงานของตัวเองไปเรื่ิอยๆ จึงคิดว่า นักเขียนนี่เเหละมันใช่ที่สุด!! และก่อนทิ่ี่จะยาวไปมากกว่่านี้ เราขอเริ่มบรรยายชีวิต 5 วัน กับการฝึกอาชีพ "นักเขียน" พร้อมกันรึยังทุกคน ถ้าพร้อมเเล้ว เริ่มกันเล้ยยยยยย
วันนี้เป็นวันแรกของการฝึกงานอาชีพนักเขียน พวกเรามาฝึกกันที่บริษัทวิริยะธุรกิจ (บริษัทที่ทำเกี่ยวกับนิตยสารสารคดี) ซึ่งพี่วิม พี่สตาฟจากค่ายทำก่อนฝัน ได้นัดพวกเรา 4คน มาที่นี่ในเวลา 8.30 น. โดยพี่ๆที่ทำงานในบริษัทจะมาทำงานในเวลา 9.00 น. เราจึงไปนั่งรอกันที่ห้องสมุดของบริษัทพร้อมกับพี่วิม
ณ.เวลา 9.00 น. พี่ๆเริ่มมาทำงานกัน และมีพี่ศกล (ช่างภาพ) เข้ามาพาพวกเราไปห้องที่มีไว้สำหรับให้พวกเราทั้ง 4 คน ฝึกงานในเวลา 5 วันนี้ และในเวลา 9.30 พี่จ๋า (เลขากองบรรณาธิการ) ก็พาเราไปเยี่ยมชมบริษัท แนะนำตัวแก่พี่ๆแต่ละแผนก พี่ๆทุกคนน่ารักมากๆเลยค่ะ ต้อนรับพวกหนูเป็นอย่างดีเลย
จากที่พี่จ๋าพาไปดูการทำงานสารคดี กว่าจะได้ผลงานดีๆแบบนี้ ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง เราจะเห็นได้ว่าทุกๆคนในบริษัทไม่มีใครที่ทำงานอยู่กับตัวเองคนเดียว ทุกคนต้องทำงานร่วมกัน นักเขียนต้องทำงานกับช่างภาพ เพราะถ้ามีแต่ตัวหนังสือมันก็ไม่น่าสนใจ เเต่ถ้ามีแค่ภาพคนอ่านก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่เราไปเก็บข้อมูลมาเลย ดังนั้นถ้าขาดใครคนใดหนึ่งไปงานนั้นก็จะไม่สำเร็จ
พอถึงช่วงบ่าย พี่วี (นักเขียน) มาอธิบายให้เรารู้เกี่ยวกับงานเขียนและอาชีพนักเขียนสารคดี
คนหลายคนอาจจะเข้าใจว่างานเขียนทุกประเภทนั้นเรียกรวมกันว่าบทความ แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ บทความคืองานเขียนประเภทหนึ่ง ซึ่งงานเขียนยังมีอีกหลายประเภท เช่น นิยาย สารคดี บทความ
สารคดี คือ งานเขียนที่เป็นเรื่องจริง (ห้ามสมมุติเด็ดขาด!!) และต้องมีความงามด้านวรรณศิลป์ด้วย
1.ชื่อเรื่อง
2.เปิดเรื่อง
3.ตัวเรื่อง
4.ปิดเรื่อง
และนี่ก็คือความรู้ทั้งหมดที่เราต้องนำไปเขียนในงานของเราเอง
หลังจากที่เราได้เรียนรู้วิชาจากพี่วีมา พี่วีก็อยากจะรู้ว่าสารคดีแบบไหนที่เราชอบ และที่เราไม่ชอบ อย่างละ 3 ข้อ กิจกรรมนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่าสารคดีแบบไหนที่ควรและไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เสร็จเเล้วก็นำมาปรับใช้ในงานเขียนของเรา เพื่องานเขียนที่มีคุณภาพ ภาพ ภาพ (เสียงเอคโค่)
เห้อออ เผลอๆก็ 17.00 น. ทำไมเวลาแห่งการเรียนรู้มันช่างสั้นเสียอย่างนี้นะ...
ฮ้าววว เช้าวันใหม่ วันนี้วันอังคาร ตอนทานข้าวเที่ยงเมื่อวานพี่ศกลได้บอกกับเราว่า “ถ้ามาเช้าหน่อย แวะไปตลาดในกระทรวงพาณิชย์ได้นะ” อ่ะแหมม สายกินอย่างเราได้ยินดังนั้นก็จัดไปเลยจ้า 7.30!! มาก่อนชม.นึง รีบขนาดไหนถามใจดู555 ในตลาดของกินเยอะมากกกก อร่อยด้วย แต่ขอเตือนไว้ตรงนี้ ว่าจะซื้ออะไรยับยั้งชั่งใจหน่อยนะจ๊ะ ไม่งั้นกระเป๋าได้แฟบแน่555 ดังนั้นน้องๆทำก่อนฝันรุ่น 5 ที่ได้มาฝึกงานที่นี่ ใครสายกินหรือสายไม่ได้กินข้าวเช้ามาก็แวะไปสักนิดก่อนเริ่มฝึกงานนะจ๊ะ (พาน้องอ้วน55)
มาๆเข้าเรื่อง กันเถอะ เดี๋ยวจะยาวไปมากกว่านี้55 ตอนเช้าเวลาเดิม 9.00 น. พี่วีกับพี่เวช (ช่างภาพ) ได้เข้ามาสั่งงานพวกเรา สำหรับนักเขียน พี่วีได้ให้งานเขียนเรื่องหนึ่งมา ยาวมากกกก ให้อ่านและสรุปใจความสำคัญลงสมุด แล้วลองเล่าให้เพื่อนๆฟังผ่านคำพูด
กลับมากันที่ภาคบ่าย งานชิ้นที่ 2 มาเสิร์ฟเเล้วจ้าาา โจทย์มีอยู่ว่าให้ดูภาพทีี่พี่วีส่งให้ เเล้วมาเล่าบรรยายภาพให้เพื่อนๆพี่ๆฟังให้เข้าใจ โดยที่คนฟังยังไม่ได้ดูรูปภาพ พร้อมกับเขียนอธิบายตามโครงสร้างของงานสารคดี
หลังจากจบกิจกรรมนี้ไป พี่วีสั่งให้พวกเราไปค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับที่ที่เราจะไปพรุ่งนี้ ก็คือชุมชนบ้านญวน สามเสน นั่นเองงงง
พอค้นคว้าข้อมูลเสร็จแล้วก็เตรียมเก็บของกลับบ้านได้เลย ฟิดร่างกายเตรียมพร้อมลงพื้นที่จริง!!
เช้าวันที่ 3 ช่างเป็นเช้าที่สดใสอะไรเช่นนี้ พี่ๆนัดเรามารวมตัวกันที่วัดราชาธิวาส เวลา 8.00 น. สักประมาณ 8.30 ทุกคนจึงมารวมตัวกันครบ! มีพี่ๆทีมงานจากบริษัทคนอื่นๆ ทั้งช่างภาพและนักเขียน มาตรวจสอบพื้นที่ ให้คนที่มาค่ายสารคดีที่พี่ๆจัด ได้มาลงพื้นที่
จากนั้นเราก็เริ่มสำรวจพื้นที่ใน ชุมชนบ้านญวน สามเสนกันนนน ขอคร่าวๆเด้อ
เริ่มกันที่ วัดราชาธิวาส
หมู่บ้านคอนเซ็ปชัญ
ชุมชนท่าน้ำบ้านญวนกับอาชีพนักดำน้ำหาของเก่า
พักกินน้ำกินข้าวสักแป๊ปนึงที่ศาลเจ้าจุ้ยโบเนี้ยว
ประมาณนี้ละกันเนอะ5555 วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่เหนื่อยมากแล้วก็สนุกมากๆเช่นกัน ไม่อยากให้จบวันเล้ยยยย
หลังจากที่เมื่อวานเราได้ลงพื้นที่กันไป ถึงเวลาแล้วจ้า ที่ต้องลงมือเขียนงานกันสักที เอ้อ เราเลือกเรื่องนักดำน้ำหาของเก่านะ เพราะเราคิดว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจมากก เลยเลือกมา แต่วันนี้พี่วีกับพี่เวชไม่อยู่นะสิ พี่ๆเขาไปลงพื้นที่ที่ต่างจังหวัดกัน พวกเราก็เลยดีใจที่ได้คุมห้องนี้ เฮ้ย!! ไม่ใช่!! 555 จริงๆเเล้วเรารู้สึกกังวลเกี่ยวกับงานนิดหน่อย เพราะไม่มีใครให้ปรึกษา แต่ไม่ต้องห่วง นี่มันยุคสมัยไหนกันเเล้ว!! อินเตอร์เน็ตมีก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์สิ เราจึงปรึกษาพี่วีเเละส่งงานให้พี่วีผ่านทางเฟซบุ้ก ซึ่งพี่วีนั้นก็น่ารักมาก พี่เขาบอกของานก่อนเที่ยง!! อ้ากกก ปั่นจนมือหงิกเลยเรา
และหลังจากที่ปั่นงานไปก็ส่งให้พี่วีดู พี่วีก็บอกให้แก้นิดหน่อย และก็ปริ้นวางที่โต้ะพี่วี เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่วีมาตรวจ
แต่ปล่อยให้เด็ก 4 คนอยู่ตามลำพัง ก็จะบ้าๆบอๆแบบนี้ล่ะเนาะ555
เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสเอาซะเลย เพราะว่ามันคือวันสุดท้ายแล้วน่ะสิ เวลาผ่านไปเร็วจังเลยย อยากอยู่ต่อสักเดือนนึง55 (ทุกคนวันนี้มีตลาดนะจ๊ะ และเราก็ไปเหมือนเดิม55) เริ่มงานกันเลยดีกว่า วันนี้พี่วีและพี่เวชกลับมาแล้ว เย่ พี่วีนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คืองานของเราเองงง บนกระดาษนั้นมีรอยปากกาสีน้ำเงินเต็มไปหมด แทบจะไม่เห็นพื้นที่ว่าง ไหนบอกว่าแก้นิดเดียวไงพี่วี้!! หลอกน้อง555
จากนั้นก็นำงานกลับมาแก้ พอแก้จนถูกแล้ว ก็ขอให้พี่จ๋าปริ้นให้ และโพสต์ลงเพจ sarakadee maggazine ในวันรุ่งขึ้น
ช่วงก่อนไปกินข้าว ก็ได้มีพิธีอำลา (เนื่องจากพี่เวชมีงานต่อ) โดยพี่วีและพี่เวชจะถามว่าได้อะไรจากการมาฝึกงานครั้งนี้ไปบ้าง พอเราทั้ง 4 คน พูดจบก็กล่าวขอบคุณพร้อมกัน จากนั้นก็ไปกินข้าวกัน
ช่วงบ่าย มีพิธีรับเกียรติบัตรที่ห้องสมุด โดยมีพี่วีและพี่ศกลเป็นคนมอบให้ จากนั้นก็ถ่ายรูปรวม เป็นอันว่าเสร็จพิธี
สุดท้ายนี้หนูอยากจะขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกๆคนมากๆนะคะ ที่ทำให้การมาค่ายครั้งนี้ หนูได้พัฒนาตนเองไปอีกหลายๆด้าน ทั้งด้านการเข้าสังคม และด้านการเขียน โดยเฉพาะด้านการเขียน หนูพัฒนาไปมากกว่าแต่ก่อนจริงๆค่ะ อันนี้ขอขอบคุณพี่วีจากใจเลยค่ะ ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ทำให้มุมมองของหนูต่ออาชีพนักเขียนเปลี่ยนไป ทำให้หนูรู้สึกว่าอาชีพนี้น่าสนใจและอยากที่จะเดินไปบนเส้นทางสายนี้ ขอบคุณพี่ๆที่เต็มที่ในการให้ความรู้หนูแนะนำหนูในทางที่ถูก ไม่มีอะไรจะพูดแล้วนอกจากขอบคุณนะคะ
จบเเย้วววววว อ่านจบกันมั้ยน้า น้องๆรุ่นที่ 5 เราตั้งใจเขียนมากเลยนะ สำหรับน้องๆคนไหนที่ยังลังเลอยู่ว่าค่ายนี้ดีมั้ย เราก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ เเต่พอได้มาลองเองจริง รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตเลย แต่เราพูดไปน้องคงไม่เข้าใจ น้องต้องมาลองเองเลยย มาเถอะ มามะ มาค่ายนี้กันเร้ววว ยังมีอาชีพที่น่าสนใจอีกหลายอาชีพให้น้องๆได้สมัครนะ เพื่อชีวิตที่ไขว่ขว้าตามหาฝันอย่างพวกเรา เราจะเอาเเต่นอนอืดอยู่บ้านไม่ได้!! เราต้องลองทำก่อนที่จะทำตามความฝันนั้นจริงๆ สู้เว้ยพวกเรา!!
ขอฝากผลงานนิสนุงง นี่งานที่เค้ากับพี่ตั้งโอ๋ทำเองงง ขอบคุณพี่จ๋า ที่เอาลงให้นะคะ เข้าไปอ่านกันได้นะะ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2388991037996999&id=1745101772385932