สวัสครับเพื่อนๆทุกคน ผมชื่อนาย รพี เลืองยวี ชื่อเล่นชื่อว่า ชิน (ชุดนักเรียนสีเขียว)
ในblogนี้ผมจะเล่าถึงประสบการณ์การฝึงาน อาชีพสัตวแพทย์ ในโครงการ "ทำ ก่อน ฝัน" The Dream Explorers
ที่ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
#ทำก่อนฝัน #ทรูปลูกปัญญา
"ทำ ก่อน ฝัน" The Dream Explorers เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เด็กมัธยมปลาย
ได้ทดลองค้นหาความถนัดและอาชีพที่ชอบ ผ่านการเวิร์คช็อปและฝึกงานจริงกับผู้เชี่ยวชาญถึงบริษัท
เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพนั้นๆ ในแง่มุมต่างๆ อย่างใกล้ชิด ผ่านการพูดคุย ทดลองปฏิบัติงาน และสังเกตการณ์
ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ (ก็อปมาจากเว็ปเขาเลย55)
กิจกรรมนี้จัดขึ้นก่อนวันฝึกงา เพื่อให้นักเรียนทั้งได้มาร่วมกันค้นหาเป้าหมาย ความถนัด และ อาชีพที่ชอบ
จัดที่ อาคารทรู ทาวเวอร์2 ถนนพัฒนาการ
ในworkshop ก็จะมีกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่กิจกรรมสันทนาการ
กิจกรรม GO TO GOALS
การชี้แจงรายละเอียดการไปฝึกงาน และการสัมภาษณ์ความรู้สึก
พี่พี่ที่ทรูดูแลดีมาก มีรถตู้ไปรับไปส่งจากbtsมายังอาคาร
กินดีอยู่ดี กิจกรรมสนุก ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และยังได้ป้ายชื่อเป็นของตัวเองอีกด้วย
กิจกรรมของวันแรกเลยแบ่งออกเป็นครึ่งเช้า และครึ่งบ่าย
โดยในครึ่งเช้าจะมีพี่พี่ Dream Experts มาคอยต้อนรับอย่างอบอุ่น
มีการแนะนำโรงพยาบาลสัตว์ สอบถามความต้องการ
และพาเราเดินเยี่ยมชมหน่วยงานต่างๆในโรงพยาบาล อีกทั้งยังมีการแบ่งกลุ่มกันไปฝึกงาน
โดยจะมีกลุ่ม b1 และ b2 คอยสลับหน่วยกันฝึกงาน (ผมอยู่ b2)
สำหรับครึ่งวันบ่ายกลุ่มของผมได้ไปเรียนรู้ ในหน่วยคลินิกสัตว์เลี้ยงพิเศษ หรือหน่วยสัตว์exotic
ในแผนกนี้คุณหมอจะรักษาสัตว์ทุกชนิดที่ไม่ใช่สุนัข และแมว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำ และอื่นๆอีกมากมาย
แผนกนี้เป็นแผนกที่สนุกมากก ได้เจอสัตว์หลายชนิด ได้เล่น ได้จับ และมีเคสให้ได้ศึกษาตลอดทั้งวัน
แต่ละเคสก็จะมีสิ่งน่าสนใจไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ผู้ช่วยสัตวแพทย์ยังสอนวิธีการป้อนอาหารสัตว์ป่วย
ดูแลสัตว์ป่วย และวิธีการรับมือกับสัตว์ชนิดต่างๆอีกด้วย
ในการมาฝึกงานครั้งนี้ทำให้รู้ว่าสัตวแพทย์ต้องทำงานร่วมกับ ผู้ช่วยสัตวแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ พยาบาลสัตว์ และเจ้าของสัตว์
ซึ่งทุกๆคนในแผนกใจดีมาก ให้ความรู้แบบเต็มที่ ให้ดูเคสอย่างใกล้ชิด รวมถึงเจ้าของสัตว์ที่อนุญาติให้เราได้เข้ามาศึกษา
หน่วยนี้มีเคสมาตลอดเลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย
วันที่2 ก็ยังคงฝึกอยู่ที่แผนกสัตว์exotic เหมือนเดิม เคสที่เข้ามาก็มีเคสใหม่เยอะขึ้น
ในวันนี้ได้เข้าไปเดินชม wardสัตว์ป่วยของแผนก exotic
สิ่งที่ได้ทำมีเยอะขึ้น ได้ช่วยจับบังคับสัตว์ นำเลือดไปส่งยังห้องตรวจ เรียกเจ้าของสัตว์เลี้ยงตามคิว
ช่วยหยิบจับของ จัดเตรียมอุปกรณ์ เช่นตราชั่ง
สัตว์ที่เจอก็หลากหลายขึ้น น่ารักทุกตัว
สิ่งที่ทำให้มีความสุขมากๆเลยในแผนกนี้คือการที่เราได้เห็นเจ้าของสัตว์ รักสัตว์เหมือนลูก
คอยดูแลเอาใจใส่ พามารักษา บางคนต้องหยุดงานเพื่อนำสัตว์มารักษา อยากให้ทุกคนที่คิดจะเลี้ยงสัตว์
คิดก่อนจะเลี้ยงว่าเราเลี้ยงเขาไหวไหม ถ้าเขาป่วยเราจะพาเขามารักษาได้รึเปล่า เรามีเวลาให้เขาไหม
ถ้าเรามั่นใจแล้วค่อยเลี้ยง และควรเลี้ยงให้เหมือนสัตว์เป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ให้คิดว่าสัตว์ก็มีหัวใจ
ผมได้ย้ายมาอยู่ หน่วยธนาคารเลือดเพื่อสัตว์เลี้ยง หรือBlood Bank
หน่วยนี้จะมีเคสเข้ามาค่อนข้างน้อย หน้าที่ในนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของพี่พี่นักวิทย์
โดยมีหน้าที่ในการตรวจดูว่าเลือดของสัตว์ที่จะให้ และรับเลือดนั้นเข้ากันได้หรือไม่
พี่ๆในแผนกทุกคนก็น่ารัก และดูแลเราดีมาก มีของให้กิน สอนหลายๆอย่าง
บอกชื่ออุปกรณ์และตู้ต่างๆ
หลังจากที่พักกินข้าวในตอนเที่ยง ช่วงบ่ายก็เริ่มมีเคสเข้ามา
เคสบริจาคเลือดที่เข้ามา เป็นเคสของน้องหมา ไซบีเรียน กับโกลเด้น
ชื่อน้ำพริก(ไซบีเรียน) กับ ปลาทู(โกลเด้น) ซึ่งเจ้าของไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่ขับผ่านมาหลังจากไปเที่ยว
เป็นบ้านที่ดูแลน้องหมาอบอุ่นมาก
อยากให้คนพาน้องหมาน้องแมวมาบริจาคเลือดกันเยอะๆนะครับ นอกจากจะได้บุญแล้ว
เรายังได้รับของแถมกลับบ้าน หลังจากบริจาคเลือดก็จะได้รับยาบำรุงเลือด แถมเมื่อบริจาคครบ3ครั้ง
ทางโรงพยาบาลก็จะมีการฉีดvaccineให้ฟรี+ยาถ่ายพยาธิ+ivm+เหรียญกล้าหาญ
หลังจากบริจาคเลือด สุนัขก็จะมีการสร้างเซลล์ใหม่ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งมากขึ้น (จากเน็ต55)
นอกจากนี้ทุกอย่างฟรี!
ธนาคารเลือดของโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรเปิดทุกวัน
8:30-14:00 ยกเว้นวันศุกร์ 8:30-11:00
วันนี้กลุ่มb2ได้ย้ายมาอยู่หน่วยสัตว์ป่วยภายใน
หน่วยนี้เคสค่อนข้างเยอะ กลิ่นสุดยอดที่สุดในบรรดาหน่วยที่ไปฝึกมา
เคสส่วนใหญ่ในหน่วยนี้ส่วนมากจะเป็นการดูแลสัตว์ป่วย ให้อาหาร เปลี่ยนผ้าพันแผล
เปลี่ยนแพมเพิส ทายา ป้อนยา และอื่นๆอีกมากมาย
ในหน่วยนี้ก็จะมีห้องต่างๆมากมาย
ห้องที่มีจะมีห้องพัก ห้องสำหรับจัดเตรียมอาหาร ห้องพักสัตว์ติดเชื้อ ห้องสัตว์ป่วยแยกสุนัข แยกแมว
พี่พี่หน่วยนี้ก็ยังใจดีเหมือนทุกๆหน่วย
หน่วยนี้เป็นหน่วยที่ได้ทำงานกับสัตว์มากที่สุด ได้จับ ได้ช่วยพี่หมอในหลายๆอย่าง
หน่วยนี้เฮฮา สนุก เคสเยอะช่วงเช้า ช่วงบ่ายส่วนใหญ่ก็จะเหลือแค่ป้อนยาป้อนอาหาร
[นอกเรื่องฝึกงาน คุณหมอใจดีมากพานั่งติดรถไปตลาดหัวมุมด้วย]
วันสุดท้ายฝึกงานแค่ครึ่งวัน ได้ไปฝึกที่หน่วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู
หน่วยนี้มีเคสเข้ามาเรื่อยๆไม่ขาดสาย เคสส่วนใหญ่ก็จะเป็นเคสเกี่ยวกับสุนัขที่มีอายุแล้ว
อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการรักษามีเยอะมาก และอุปกรณ์ที่เห็นอยู่ในภาพข้างบนที่เป็นพื้นหลัง
คือลู่วิ่งน้ำ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงเครื่องละ 6ล่้านบาท
สำหรับพี่ๆหน่วยนี้ก็ยังใจดีอีกเช่นเคย สรุปคือใจดีทุกแผนก+ใจดีมากด้่วย
หน้าที่หลักของแผนกนี้คือช่วยฟื้นฟูให้สัตว์กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เช่นหลังจากผ่าตัด
สุนัขไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หน่วยนี้ก็จะช่วยฟื้นฟูให้สุนัขกลับมาเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
รวมถึงสัตว์ที่มีอายุ มีอุบัติเหตุ และอีกหลายๆเคส
หน่วยนี้ได้ฝึกแค่ครึ่งวันเลยมีข้อมูลแค่นี้นะครับ
หลังจากฝึกเสร็จครึ่งวันเช้า ครึ่งวันบ่ายก็จะมีการพรีเซ้นเกี่ยวกับการฝึกงาน
หลังจากพรีเซ้นเสร็จก็มอบของสมนาคุณ และรับเกียรติบัตร เป็นอันเสร็จสิ้น แยกย้าย!
ขอสรุปสิ่งต่างๆข้างล่างนี้นะครับ
หน้าที่หลักคือการรักษา และดูแลสัตว์ป่วย รวมทั้งดูแลสัตว์ที่ไม่ป่วย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง สัตว์เศรษฐกิจ และควบคุมโรคที่เกิดจากสัตว์ไม่ให้แพร่มาสู่คน
เป้าหมายของงานนี้ คือการได้เห็นสัตว์มีสุขภาพดีขึ้น ปลอดโรค (คนปลอดภัย สัตว์ปลอดภัย พวกเราปลอดภัย!!!)
ทำงานอยู่ในห้องตรวจ ห้องผ่าตัด ห้องรังสี ธนาคารเลือด และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่หน่วยที่อยู่
แต่หากเป็นคลินิกก็อาจจะมีห้องที่น้อยกว่า
ทำให้ตรวจรักษาโรคได้ไม่ครอบคลุมเท่าโรงพยาบาลสัตว์
1.เจ้าของสัตว์ (ถามไถ่อาการจากเจ้าของ)
2.นักวิทยาศาสตร์ (ตรวจเลือด ตรวจโรค)
3.ผู้ช่วยสัตวแพทย์ (ช่วยจับบังคับ จัดเตรียมอุปกรณ์)
4.พยาบาลสัตว์ (คล้ายผู้ช่วยแต่เฉพาะทางกว่า)
ความอดทน ความรักที่มีต่อสัตว์ ความรอบคอบ ความไม่ประมาท สามารถพูดคุยสื่อสารกับเจ้าของสัตว์ได้ดี
ข้อดี: สำหรับคนที่รักในอาชีพนี้ แน่นอนว่าทำแล้วมีความสุข การได้เห็นสัตว์ที่เรารักษานั้นหายป่วยเป็นอะไรที่ทำให้เรามีความสุขมากๆ
ข้อเสีย: งานหนัก เจอแต่สัตว์ป่วย กลิ่นไม่ค่อยดี เวลาทำงานไม่ค่อยแน่นอน
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ทำให้เกิดโครงการนี้ พี่ๆที่คอยประสานงานจนทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วง ขอบคุณมากจริงๆครับ
ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งในความทรงจำดีๆที่ไม่ลืมแน่นนอนครับ