Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Spoil! อาชีพครู

Posted By thanakrith | 29 เม.ย. 62
14,907 Views

  Favorite

สวัสดีจ้าา วันนี้ผมจะมาสปอยล์ตามหัวข้อเลย นั่นก็คือ อาชีพครูนั่นเอง ถ้าทุกๆคนพร้อมแล้วละก็ ไปชมกันเลยยยยยย!

     

       ขอบอกตรงนี้เลยนะครับว่าบทความนี้ไม่ใช่แค่สำหรับพี่ๆน้องๆที่อยากเป็นครูเท่านั้น แต่รวมไปถึงทุกคนด้วย เพราะจะทำให้เรารู้จักและเข้าใจอาชีพครูมากขึ้นอีกด้วย

 

 

Spoil alert!

เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการสปอยล์(อาชีพครู)แบบจัดเต็ม

โดยจะทำให้ทุกคนได้ รู้ลึก..รู้จริง..รู้ในสิ่งที่ทุกๆคน(อาจ)ไม่เคยรู้มาก่อน

หากท่านผู้ชมไม่กล้าที่จะรับชมการสปอยล์(อาชีพครู)ต่อไปนี้ กระผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

 

Spoil 1 - ทำไมต้องมีครู นั่งอ่านเองไม่ได้หรอ?

       หลายๆคนอาจเคยคิดอย่างนี้ใช่ไหมครับ ส่วนตัวผู้เขียนก็เคยเช่นกัน แต่วันนี้จะรวบรวมเหตุผลที่ทำไมต้องมีครูไว้ให้แล้วครับ

 

Note! อันนี้หมายถึงคุณครูที่สอนตามมาตรฐาน ไม่นับครูที่สอนไม่ดีเป็นตามกระแสดราม่าต่างๆนะครับ

  • ครูสร้างบรรยากาศในห้องเรียน สำหรับบางคนคงจะยากที่อยู่ๆจะอยากหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่าน แต่ครูสามารถช่วยทำให้เราอยากอ่านมากขึ้นใด้
  • ครูคอยกำกับดูแลเด็ก (โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้) ให้อยู่ในมาตรฐานที่เราควรเป็น
  • ครูเป็นผู้ประเมิน (เพราะคงจะยากที่เราสามารถประเมินตัวเองได้อย่างแม่นยำ) ว่าเรามีจุดเด่นหรือจุดด้อยในแต่ละวิชาอย่างไร
  • ครูสามารถตอบคำถามในสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ (พูดง่ายๆคืออ่านแล้วแต่ยังไงก็ไม่เก็ท) เพราะครูมีความรู้อย่างดีในด้านที่ท่านสอน
  • ครูเป็นผู้รวบรวมและสรุปเนื้อหามาให้เราเข้าใจง่ายขึ้น ทำให้การเรียนเนื้อหาอันมากมายและแสนยากที่จะเข้าใจได้ง่ายลง เหมือนกับการนำข้าวและเนื้อปลาที่เปรียบเสมือนเนื้อหาที่ยังไม่ได้สรุปมาจัดเรียงเป็นซูชิที่ทานง่าย
  • ครูเป็นมากกว่าผู้สอน แต่ครูเป็นทั้งแรงบัลดาลใจทำให้นักเรียนอยากเรียนหนังสือหรือแม้แต่มีความคิดริเริ่มแปลกใหม่ด้วย (ส่วนตัวผมเองส่วนหนึ่งที่ชอบเรียนชีวะมากก็เพราะครูที่สอนชีวะเป็นครูที่น่ารักมากๆด้วยแหละ 555) บางครั้งก็มีครูเป็นผู้ให้คำปรึกษาต่างๆไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิต การวางแผนการเรียน ฯลฯ

Spoil 2 - แหกกฎทุกความเป็นครู

Thammasart Secondary School
Thammasat Secondary School TSS

       

       ขอเกริ่นก่อนว่าผมได้ไปสังเกตการณ์ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเวลา5วัน ต้องขอบอกว่า โรงเรียนนี้ฉีกกฎของครูในแบบเดิมๆ แต่จะมีอะไรแตกต่างไปบ้าง ต้องไปอ่านดูนะครับ

 

 

       การเรียนที่โรงเรียนนี้เป็นการเรียนแบบเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมและการตั้งคำถามโดยฝึกให้นักเรียนได้เกิดดารคิด (critical thinking) และการแก้ไขปัญหา (problem solving) โดยจะทำให้บรรยากาศในห้องเรียนไม่น่าเบื่ออีกต่อไป โดยเปลี่ยนจากการนั่งฟังเลกเชอร์ยาวเหยียด ไปเป็นการเรียนผ่านกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ โดยข้อมูลที่ครูที่สอนเลกเชอร์นั้นเปรียบกับการยัดข้าวให้นักเรียนกิน แต่ถ้าครูนำข้อมูลมาเปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิด และอยากเรียน เสมือนว่านักเรียนเป็นคนกินข้าวด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครป้อนอีกและสามารถจะกินข้าวจานอื่นได้ต่อไป

การสอบ! ช่วงเวลาวิกฤติของใครหลายๆคน

       ไหนจะต้องปั่นการบ้านให้เสร็จ โครงงานที่ยังค้าง แล้วก็ยังต้องอ่านหนังสือสอบอีก และเป็นอีกอย่างหนึ่งที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต่างจากโรงเรียนอื่นๆ โดยการสอบของโรงเรียนนี้จะกำหนดสิ่งที่หลายๆคนเรียกกันว่าตัวชี้วัดทางการเรียนรู้ โดยในข้อสอบจะต้องสามารถตอบได้โดยคำตอบและวิธีทำนั้นจะต้องใช้ความรู้จากที่ได้เรียนมา และสอดคล้องกับขอบเขตที่ตั้งไว้ และการสอบที่นี่ไม่มีตก ไม่มีเกรด แต่จะมีเกณฑ์การประเมินว่าเด็กมีจุดเด่นและจุดด้อยในวิชานั้นอบ่างไร

Spoil 3 - ทักษะที่อาชีพครูพึงมี

ครูดีมีคุณภาพ ไม่ใช่แค่สอนดีสอนเก่งเท่านั้น 

การพรีเซนท์ต้องสามารถดึงดูดผู้ฟังได้
  • การสื่อสารและถ่ายทอดข้อมูลให้กับนักเรียน นับเป็นทักษะพื้นฐานของครู ที่จะต้องสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนได้
  • การตรวจประเมินผลความรู้ ประเมินผลในด้านความรู้/การวิเคราะห์แก้ไขปัญหาของผู้เรียน

ว่านักเรียนมีจุดมี่ดีและจุดที่ยังควรพัฒนาคืออะไร เพื่อที่ครูจะสามารถสอนได้ตรงจุดมากขึ้น

  • ความรู้ในด้านที่สอน เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการสอน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ครูสอนนั้นถูกต้องและแม่นยำ รวมไปถึงการเตรียมเนื้อหาที่จะสอนเพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาที่ครูเข้าใจอยู่นั้นถูกต้องและทันสมัย (เนื่องจากบางรายวิชาข้อมูลและเนื้อหาอาจมีการอัปเดตตลอดเวลา)
  • การบริหารจัดการชั้นเรียน จัดการปัญหาต่างๆในคลาสเรียนนั่นเอง ไหนจะปัญหาล้อชื่อบุพการีกัน ทะเลาะกัน หรือที่ส่งผลกระทบต่อการสอนมากที่สุดก็คือคุยกัน เพื่อให้ปัญหาเหล่านี้ไม่รบกวนการเรียนการสอน ครูจำเป็นที่จะต้องจัดการเด็กนักเรียนให้อยู่หมัดนั่นเอง

Spoil 4 - ข้อดี/ข้อเสียของอาชีพครู

       อาชีพครูใช่ว่าจะไม่มีข้อดีอะไรเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปหมดทุกอย่าง จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!

ข้อดี - ได้บุญ ในความคิกหลายๆคนก็แาจคิดว่าหมอเป็นเหียงอาชีพเดียวที่ทั้งทำงานไปและทำบุญไปด้วยได้ แต่ความจริงแล้วครูก็ไม่ต่างจากหมอ เพียงแต่หมอเป็นผู้รักษาคนที่เจ็บป่วยทางกาย รักษาให้หายจากเชื้อโรคหรืออาการต่างด้วยยาและการบำบัด ส่วนครูนั้นรักษาลูกศิษย์ที่ขาดความรู้ หรือเข้าใจในบางอย่างผิดให้หายจากความไม่รู้โดยใช้ความรู้ที่ครูมี เสมือนกับหมอที่รักษาคนใข้นั่นเอง

ข้อเสีย- ความเครียดที่ได้รับ ในครูบางท่านอาจเจอกับปัญหาในห้องเรียน(ในส่วนใหญ่จะพบในโรงเรียนทั่วไป) เพราะเด็กนักเรียนมีปัญหาที่เราอาจไม่คิดไม่ฝันก็ได้

ความมั่นคงในอาชีพ - ข้อนี้ผมขอไม่นับเป็นข้อดีหรือข้อเสียได้ เพราะจากที่ได้ประสบมานั้นมีทั้งครูที่ร่ำรวยและมั่นคงในอาชีพอย่างมาก (เผลอๆอาจรวยกว่าอาชีพอื่นๆอีก) และมีทั้งครูที่เงินเดือนแทบไม่พอใช้ ผมขอบอกว่าขึ้นอยู่กับความสามารถและความคิดของครูแต่ละท่าน

และแล้วก็จบค่ายพร้อมกับรับเกรียติบัตรแบบไม่เหมือนชาวบ้าน555

      

       ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับการสปอยล์เรื่องราวของอาชีพครูที่หลายๆคนอาจไม่รู้มาก่อนซึ่งผมหวังว่าผู้อ่านทุกๆท่านก็คงจะได้รับข้อมูลจากบล็อกนี้ไปไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาด,ข้อติชมอะไรก็สามารถบอกไว้ได้นะครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจเข้ามาอ่านครับ

ปล.อยากจะฝากข้อความนี้ไว้ ให้ทุกๆคนครับ

“ไม่สำคัญว่าคุณเรียนจบมาจากสาขาวิชาไหน ขอแค่คุณมีใจที่จะสอนก็สามารถเป็นครูได้”

 

 -THE END-

ขอบคุณอีกรอบครับ ^^

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • thanakrith
  • 0 Followers
  • Follow