สวัสดีครับเรามาทำความรู้กับโครงการทำ ก่อน ฝันและอาชีพที่ผมเลือก ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับว่าผมชื่อ นาย สุรเสกข์ หลงสมบุญ ชื่อเล่น ปิ๊ก กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียน อัสสัมชัญธนบุรี
เพราะว่าโครงการ ทำ ก่อน ฝัน นั้นเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้ลงมือฝึกงาน ณ สถานที่จริงจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมสมัครเข้าโครงการนี้ก็เพราะโครงการนี้จะเป็นส่วนช่วยในการค้นหาตัวตนว่าเรานั้นเหมาะสมกับอาชีพที่สนใจหรือไม่ แล้วได้เเนวทางว่าเราจะต้องศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะอะไรเพื่อที่เราจะสามารถนำมาใช้ในอาชีพนี้ได้ เพื่่ออาชีพในอนาคตของเราและเพื่อความความสุขของเรา
สาเหตุที่ผมเลือกอาชีพนักเวชศาสตร์นั้นก็เพราะว่าผมเป็นคนที่ชื่นชอบในการเล่นกีฬาทุกรูปแบบและผมยังสนใจในเรื่องของการแพทย์ด้วยจึงเป็นสาเหตุทั้งหมดเลือกอาชีพนี้
ในอาชีพนี้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้จากการฝึกงานจึงทำให้รู้ว่าอาชีพนักเวชศาสตร์การกีฬาเพราะอาชีพนักเวชศาสตร์การกีฬานั้นมีเป้าหมายในการทำงานก็คือทำให้ผู้ป่วยทางด้านร่างกายไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือนักกีฬาประเภทต่างๆที่มีอาการบาดเจ็บทางด้านร่างกาย จึงทำให้เป้าหมายหลักของผมนั้นคือเราจะทำอย่างไรให้มีการพัฒนาในด้านของความรู้ที่เป็นหลักในการใช้พัฒนาตัวเองและอีกส่วนคือทำให้เรานั้นจะต้องมีจิตใจที่เป็นบริการถึงเราจะทำอาชีพอะไรก็ตามต้องมีจิตใจที่เป็นกลางในการทำงานของแต่ละอาชีพ
นักเวชศาสตร์การกีฬาจะทำงานในโรงพยาบาลโดยที่อาชีพนี้จะต้องมีการทำงานที่หลากหลายในแต่ละห้องนั้นจะต้องทำงานที่แตกต่างกันไปเพราะว่าต้องมีการวิเคราะห์ร่างกายในส่วนต่างๆแล้วนำค่าที่ได้มานั้นไปพัฒนาผู้ป่วยจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีห้องที่หลากหลาย
สถานที่ที่ผมได้รับลงพื้นที่ในการฝึกงานอาชีพนักเวชศาสตร์การกีฬาก็คือโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
วันนี้ผมได้เรียนรู้การค้นหาเป้าหมายในการค้นหาตัวตนของเรานั้นว่าเราเป็นคนรูปแบบใดและเหมาะสมกับอาชีพอะไร โดยที่กิจกรรมนี้ทำให้ผมได้รู้จักว่าตัวตนของผมนั้นมากขึ้นว่าเป็นคนอย่างไรถึงเวลาในการทำกิจกรรมนั้นจะสั้นแต่ผมก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายและได้รู้จักเพื่อนต่างอาชีพมากมายจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมีความสุขสนุนสนานมาก ความสุขนี้มันจะเป็นสิ่งหนึ่งที่มีคุณค่ากับผมมากโดยที่หาสิ่งใดมาแทนที่ได้ยาก
ในวันนี้ผมได้เรียนรู้การทำงานของอาชีพนักเวชศาสตร์การกีฬาว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพทางเลือกอย่างของทางด้านการแพทย์แต่ในการรักษานี้จะต้องประสานงานกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูว่าแพทย์จะกำหนดท่าทางในการรักษาเบื้องต้นและให้นักเวชศาสตร์การกีฬาออกเเบบท่าทางในการรักษาเพิ่มเพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ป่วยให้กลับมาเป็นปกติหรือเพิ่มขึ้นและส่วนสุดท้ายของวันนี้ได้เข้าร่วมในการประชุมในการรักษาผู้ป่วยที่จะมาทำการรักษาว่ามีปัญหาที่ส่วนใด
ในช่วงเช้าของวันนี้ได้ดูการักษาแบบจริงๆจึงทำให้เราได้เรียนรู้ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ควรที่จะใช้การรักษาแบบใดและในช่วงบ่ายได้เรียนการตรวจทดสอบสมรรถภาพร่างกายว่าควรที่จะทำอย่างไรในการตรวจการทดสอบในเเต่ละรูปแบบ
ได้ลองเล่นในรูปแบบที่ตนเองสนใจและได้รับกานแนะนำจากพี่ๆที่เป็นพนักงานและรุ่นพี่ฝึกงานได้เรียนรู้ว่าเทรนเนอร์ที่ดีจะต้องทำตัวอย่างไรโดยที่จะต้องมีสามอย่างนี้คือ
T = Trian คืออธิบายการเล่นของเเต่ละเครื่องและการทำงานของกล้ามเนื้อให้ผู้ที่ไดัรับการเทรนเข้าใจ
S = Show คือการแสดงท่าทางให้ดูเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น
D = Do คือการทำในการทำนั้นเป็นการให้ผู้รับการเทรนเป็นผู้ทำ
วันนี้เป็นวันที่ได้รับมอบมาว่าให้เป็นเทรนเนอร์ให้กับรุ่นพี่ที่ฝึกงานเหมือนกับที่พี่ๆเขาสอนเราโดยที่จะต้องทำตามในสิ่งที่พี่เขาให้เป้าหมายมาเปรียบเสมือนกับเรานั้นเป็นเทรนเนอร์จริงๆและได้เรียนการเป็นผู้นำในการนำคลาสต่างๆตามที่ได้รับมอบหมายมาเช่น โยคะ แอโร้บ็อกซิ่ง แอโรบิค เพื่อทดสอบการเป็นเทรนเนอร์ที่ดีและผู้นำคลาสที่เราควรที่ดีจะต้องอย่างไร
ได้เรียนรู้การจัดทำโครงในรู้แบบที่เราคิดเช่น โครงการส่งเสริมพัฒนาชุมชนในรูปแบบการรักษาสุขภาพร่างกายและได้รู้แนวทางในการศึกษาต่อในระดับปริญญาว่าเราจะต้องเรียนคณะ วิทยาศาสตร์การกีฬาถึงจะสามารถทำงานในอาชีพนักเวชศาสตร์การกีฬาหรือนักวิทยาศาสตร์การกีฬาเพราะว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ยังขาดเเคลนอยู่ในวงการแพทย์
อาชีพนักเวชศสาตร์การกีฬามีคนเชื่อมั่นในการรักษาแต่ในอาชีพนี้ไม่ได้มีเเค่ใช้ในการรักษาอาชีพนี้ยังสามารถจะพัฒนาร่างกายให้แก่บุคคลทั่วไปได้ด้วย
อาชีพนักเวชศาสตร์การกีฬาจะต้องใช้เวลาอยู่กับผู้ป่วยตลอดการรักษาเพื่อจะพีฒนาผู้ป่วยโดยที่ทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะใช้ชีวิตส่วนตัวไม่มากนัก