สวัสดีค่า เราชื่ออิงค์ กำลังจะขึ้นชั้นม.4 สายศิลป์ภาษาค่ะ
เรารู้จักโครงการนี้เพราะเพื่อนแชร์รายละเอียดเข้ามาในกลุ่มไลน์ เห็นว่าน่าสนใจดี แถมไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย555 เลยลองกดเข้าไปดูในเว็บไซต์ ปรากฏว่ามีอาชีพที่เราสนใจด้วยแฮะ รออะไรอยู่ล่ะพิมพ์ใบสมัครเลยสิ แต่กว่าจะได้ส่งใบสมัครจริงๆก็ปาเข้าไปเกือบวันสุดท้ายก่อนหมดเขตแล้ว ที่เรายังลังเลเพราะว่าระยะเวลาเข้าร่วมโครงการดันตรงกับเวลาเรียนปรับพื้นฐานที่โรงเรียนตั้ง 6 วัน แต่ก็คิดว่าถ้าติดก็ถือว่าเป็นประสบการณ์นอกห้องเรียน แต่ถ้าไม่ติดก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องขาดเรียนแค่นั้น จึงตัดสินใจส่งใบสมัครไป
...จนถึงตอนนี้เรารู้สึกดีใจมากๆที่ตัวเองส่งใบสมัครมาและได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ อยากรู้ไหมว่าทำไม ลองเลื่อนลงไปอ่านดูโลด
เป้าหมายหลักของอาชีพนี้ คือ การถ่ายทอดเรื่องราวและข่าวสารต่างๆ ที่เป็นความจริงให้แก่ประชาชนนั่นเอง
'อาชีพนี้ขอแค่หน้าตาดี อ่านออกเสียงชัดเจนก็พอ' ใครที่กำลังมีความคิดแบบนี้เราขอเบรกไว้ก่อนค่ะ มาดูทักษะที่จำเป็นของผู้ประกาศข่าวที่เราได้จากการทดลองฝึกงานจริงกันดีกว่า
1. ไม่ต้องหน้าตาดี แต่ต้องมีบุคลิกดี
2. ไม่ใช่แค่อ่านอย่างเดียว ต้องทำความเข้าใจเนื้อหาด้วย เพราะต้องนำเสนอในรูปแบบของ 'การเล่า' ไม่ใช่การอ่านให้ฟัง
3. คิดก่อนพูดเสมอ ระวังผลที่จะตามมาด้วย บางทีอาจถึงขั้นมีการฟ้องร้องกันเลยทีเดียว
4. รู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะรายการข่าวส่วนมากเป็นรายการสด มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้เสมอ เราต้องมีสติเตรียมการรับมือให้ดี
5. มีจรรยาบรรณ นำเสนอแต่สิ่งที่เป็นความจริง
6. มีทักษะในการใช้ภาษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม ควรจะได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ข้อดี - ทำให้เรารู้ข่าวสารบ้านเมืองได้รวดเร็ว ทำให้มีความรู้รอบตัวค่อนข้างมาก
ข้อจำกัด - เพราะเป็นการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนและคนหมู่มาก จะต้องระวังคำพูดและการกระทำของตนเองเป็นอย่างมาก
**ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่เป็นความเห็นส่วนตัวของเราคนเดียว อาจจะมีข้อดีข้อจำกัดอื่นๆอยู่ที่มุมมองของแต่ละคนด้วยค่ะ
- นักข่าว เป็นผู้ไปสืบเสาะให้ความจริงมาให้เรานั่นเอง
- บรรณาธิการข่าว เป็นผู้นำข่าวที่ได้ทั้งหมดมาเรียบเรียง และจัดลำดับความสำคัญ
- ผู้เขียนข่าว (รีไรต์เตอร์) เป็นผู้เขียนสคริปต์ให้กับผู้ประกาศข่าว
- โปรดิวเซอร์ ทำงานในห้องส่ง ต้องสื่อสารกับผู้ประกาศข่าวตอนออกอากาศ ควบคุมภาพและเสียง
มาเลย เราจะเล่าให้ฟังว่าตลอด 6 วัน เกิดอะไรขึ้นบ้าง
เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามฝึกงาน ให้เราลองกำหนดเป้าหมายชีวิต ค้นหาตัวเอง และค้นหาอาชีพที่ใช่สำหรับเรา และยังเป็นวันแรกที่จะได้เจอกับเพื่อนๆร่วมโครงการอีกด้วย
เริ่มแรกก็เป็นการทำความรู้จักกันก่อน โดยผู้ที่จะมาคอยให้ความรู้เราก็คือพี่ชูชาติ เพ็ชรโต ซึ่งเป็นบรรณาธิการข่าวของทรูโฟร์ยู
เราได้เรียนขั้นตอนผลิตงานข่าว การเขียนข่าว ซึ่งเป็นทักษะของนักข่าวไปด้วยเลย เพราะสองอาชีพนี้ก็มักมาคู่กัน เราได้ลองเขียนข่าวตามโจทย์ที่ได้รับ จากนั้นก็ลองรายงานข่าวให้เหมือนจริงที่สุด ตื่นเต้น สนุก และท้าทายมากๆเลย และพี่ชูชาติยังมีเทคนิคการรายงานข่าวให้อีกเยอะมาก
ช่วงบ่าย นี่ก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะมาวันแรกก็ได้เข้าไปในสตูดิโอและห้องส่งกันเลย
โดยเราได้ดูรายการข่าว3แบบ3สไตล์ และมาวิเคราะห์ว่าตนเองเหมาะกับแบบไหน
- ข่าวติดปาก (พี่ชมพู่และพี่โบ ธนากร)
- smart news ข่าวเย็น
- คนชนข่าว
วันนี้เราได้เข้าร่วมประชุมข่าวกับกองบก.จริงๆเลย ซึ่งการประชุมข่าว เป็นเหมือนกิจวัตรประวันเลย ที่ต้องมานั่งไล่เรียงว่าวันนี้เล่าประเด็นข่าวอะไรบ้าง ข่าวไหนน่าสนใจ ควรจัดไว้ตอนต้นหรือท้ายรายการ และพี่ชูชาติก็ให้เราช่วยแชร์มุมมองของเราด้วย ก็สนุกดีเหมือนกัน
จากนั้นพี่ชูชาติจะให้เราเลือกรูปแบบรายการที่อยากลองจัดจากรายการข่าว 3 แบบ รับสคริปต์มาฝึกอ่าน และไปดูงานสตูดิโออีกครั้ง วันนี้เจอพี่บุ๋มกับพี่บุ๊คโกะด้วย
ช่วงเช้าไปเข้าร่วมประชุมข่าวกับกองบก. จากนั้นก็เรียนการตั้งถามและการรายงานข่าวจากกพี่โมไนย เย็นบุตร มีเกมให้เล่น (แต่ไม่บอกหรอกว่าเล่นอะไร อยากให้มาลองเอง) ทั้งสนุกแล้วก็ได้ความรู้ด้วย
จากนั้นก็ถึงเวลาจัดรายการจริงกันแล้ว ทางพี่ๆทีมงานคือลงทุนทุกอย่างเหมือนรายการจริงสุดๆ ตั้งแต่กล้อง กราฟฟิค ภาพ เสียง รู้สึกเป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆ ใครอยากเป็นผู้ประกาศข่าวนี่พลาดไม่ได้เลยนะ และความยากก็คือต้องเทคเดีียวผ่านด้วย5555 แต่ในที่สุดเราก็ผ่านมาได้ ทั้งสนุกแล้วก็ประทับใจเลย
ช่วงบ่าย พี่มอต นิธิศ ก็ได้มาเล่าเรื่องราวจากการที่เคยเป็นนักข่าวให้เราฟัง วิธีรับมือเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการรายงานสด รวมทั้งเปิดโอกาสให้ถามข้อสงสัยได้หมดเลย
กิจวัตรประจำวันคือการประชุมข่าว มันทำให้เราต้องคอยเช็คข่าวเป็นประจำเลย555 จากนั้นก็ได้เข้าไปดูการทำงานตำแหน่งอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้อง เช่นฝ่ายตัดต่อ รีไรต์เตอร์ และก็ไปที่สตูดิโอเพื่อดูการจัดรายการ Smart news ข่าวเที่ยง และ Breaking news
ช่วงบ่าย เราได้มาดูผลงานที่ตัวเองได้ทำไปเมื่อวาน แอบเขินๆนิดๆแฮะ
วันนี้ทุกๆคนก็จะมาฝึกงานด้วย2อารมณ์ หนึ่งคืออารมณ์เหนื่อย(แต่สนุก)ที่สะสมมาทั้งอาทิตย์ สองคือเศร้าที่จะต้องจากกันแล้ว
ช่วงเช้าเราก็มาประชุมข่าวกันเหมือนเดิม จากนั้นพี่ชูชาติเอารายการที่เราจัดมาให้ดูอีกครั้ง และให้ประเมินตัวเองกันอย่างจริงจัง พูดคุยร่วมกันเกี่ยวกับการฝึกงานที่ผ่านมา ทบทวนตัวเองว่าจากการที่ได้ลองทำแล้วยังรู้สึกอยากทำอาชีพนี้อยู่หรือไม่
ช่วงบ่ายก็มีการมอบประกาศนียบัตร และถ่ายรูปร่วมกัน เป็นอันจบการฝึกงาน
"งานข่าวต้องทำวันต่อวัน ไม่มีสูตรสำเร็จ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามความสำคัญ"
การได้เข้าร่วมโครงการนี้ให้ประสบการณ์ที่ดีมากๆกับเรา เราจะนำทุกความรู้ที่ได้รับไปใช้อย่างคุ้มค่า ขอขอบคุณทรูปลูกปัญญาและโครงการทำก่อนฝันมา ณ ที่นี้ด้วย ขอให้จัดกิิจกรรมดีๆแบบนี้ตลอดไปค่ะ
ขอบคุณ พี่ชูชาติ เพ็ชรโต พี่โมไนย เย็นบุตร พี่มอต (นิิธิศ นาเจริญ) และพี่ๆทีมงานทรูโฟร์ยูทุกคนที่คอยสอนงานและอนุญาติให้พวกเราได้เข้าไปชมบรรยากาศการทำงาน
และอีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการคือมิตรภาพดีๆจากเพื่อนๆพี่ๆ ที่เราจะเก็บเป็นความทรงจำไม่ลืมเลย
ทุกคนๆสามารถติดตามการรับสมัครเข้าร่วมโครงการทำก่อนฝัน รุ่นต่อไปได้ที่เว็บไซต์ของทรูปลูกปัญญา และFacebook Page ทำก่อนฝัน
*จากรูปเป็นไทม์ไลน์ระยะเวลาการรับสมัครของรุ่นที่4 (2562)