หากเราพูดถึงน้ำผึ้ง น้ำผึ้งมีคุณค่าทางอาหารและประโยชน์มากมาย น้ำผึ้งนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้ถูกผลิตขึ้นมาจากผึ้งโดยตรง แต่มาจากน้ำหวานจากดอกไม้ที่ผึ้งงานไปดูดน้ำหวานเอามาไว้ในกระเพาะของผึ้งแต่ละตัว เมื่อผึ้งดูดน้ำหวานแล้ว ผึ้งแต่ตัวก็จะนำน้ำหวานที่ดูดได้ในกระเพาะไปเก็บไว้ในรวงผึ้ง ดังนั้น น้ำผึ้งที่เรากินอยู่นั้นก็คือน้ำหวานที่มาจากเกสรดอกไม้นั้นเอง
สาเหตุที่น้ำผึ้งไม่มีวันบูดเนื่องจากเมื่อผึ้งไปดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้แล้วนำมาเก็บไว้ในรังผึ้งนั้น ขณะที่ผึ้งนำน้ำหวานเก็บเข้ารัง ในน้ำลายของผึ้งมีเอนไซม์ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้น้ำผึ้งไม่เกิดการบูด และในขณะที่ผึ้งกระพือปีกระหว่างบินก็เป็นการเร่งการทำงานของเอนไซม์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นการกระพือปีกของผึ้งยังช่วยทำให้น้ำผึ้งที่อยู่ในตัวของผึ้งเกิดการระเหยของน้ำ ทำให้ในน้ำผึ้งนั้นมีน้ำอยู่เพียงแค่ 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์คือ น้ำตาล จึงเป็นเหตุว่าทำไมน้ำผึ้งจึงมีความเข้มข้นอย่างมาก
นอกจากเอนไซม์ของผึ้งที่ช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรียแล้ว ความเข้มข้นของน้ำผึ้งก็ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเข้าไปในน้ำผึ้งได้เช่นกัน เนื่องมาจากกระบวนการออสโมซิส ซึ่งเป็นกระบวนการการเคลื่อนที่ของน้ำจากบริเวณที่มีอนุภาคของน้ำมาก (ความเข้มข้นต่ำ) ไปยังบริเวณที่มีอนุภาคของน้ำน้อย (ความเข้มข้นสูง) ดังนั้น เมื่อแบคทีเรียเข้าไปในน้ำผึ้ง น้ำในตัวแบคทีเรียซึ่งมีอนุภาคของน้ำมากกว่าและมีความเข้มข้นต่ำกว่า จึงเคลื่อนที่ออกจากตัวแบคทีเรียไปสู่น้ำผึ้งซึ่งมีอนุภาคของน้ำน้อยกว่าและมีความเข้มข้นต่ำกว่า ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถอยู่ได้และตายในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าน้ำผึ้งจะไม่มีวันบูดเลยซะทีเดียว ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาของเราด้วยนะคะ ในการเก็บน้ำผึ้งให้รักษาอายุได้นาน เราควรจะเก็บในภาชนะที่มิดชิด กันลมกันฝุ่นเข้าเพื่อคงสภาพของน้ำผึ้งไว้ให้ได้นานที่สุด