ประโยคบอกเล่า |
Subject + had + V.3 |
He had cleaned his room. |
ประโยคปฏิเสธ |
Subject + had not + V.3 |
He had not cleaned his room. |
ประโยคคำถาม |
Had + Subject + V.3 |
Had he cleaned his room? |
เหตุการณ์ที่ 2 จบลงแล้ว ใช้ Past Simple Tense (Subject + V.2) โดยมักมีคำเชื่อม เช่น when, beforeระหว่าง 2 เหตุการณ์นี้ เพื่อให้เข้าใจง่าย มาดูประโยคตัวอย่างค่ะ
เหตุการณ์แรก ใช้ Past Perfect |
คำเชื่อม |
เหตุการณ์ที่ 2 ใช้ Past Simple |
ความหมาย |
He had cleaned his room |
before |
he left home. |
เขาทำความสะอาดห้องก่อนที่จะออกจากบ้าน |
The train had left |
when |
we got to the station. |
รถไฟออกไปแล้วตอนที่เรามาถึงสถานี |
เนื่องจาก 2 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอดีตในเวลาใกล้เคียงกัน และจุดเด่นของ Past Perfect Tense คือใช้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งซึ่งจบไปแล้วอีกเหตุการณ์จึงค่อยเกิดขึ้น ดังนั้น เราจึงมักพบคำเชื่อมประโยค เช่น after, already, just, yet, until, till, as soon as, when, by the time
ตัวอย่างประโยค
I had waited for 2 hours before they arrived.
(ฉันรอมาแล้ว 2 ชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะมาถึง)
After the guests had left, I went to bed.
(หลังจากที่แขกกลับแล้ว ฉันถึงได้เข้านอน)
Before I went to my house, I had had* a car accident.
(ก่อนที่ฉันกลับบ้าน ฉันเกิดอุบัติเหตุรถชน)
*had ตัวหลังในประโยคนี้ คือ Verb 3 ของ have นะคะ
By the time they came here, I already had finished my work.
(ในตอนที่พวกเขามาที่นี่ ฉันทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
My dad had not arrived by the time I left.
(พ่อยังไม่มา ตอนที่ฉันออกจากบ้าน)
They hadn't believed until they saw it.
(พวกเขาไม่เชื่อ จนกระทั่งได้เห็นเอง)
ประโยคนี้เป็นตัวอย่างการใช้คำปฏิเสธรูปย่อของ had not คือ hadn’t อ่านว่า แฮดดึนท
Had he studied English before he moved to New York?
(เขาได้เรียนภาษาอังกฤษก่อนเขาย้ายไปนิวยอร์กหรือเปล่า)