ประโยคบอกเล่า |
S + was/were + V.ing |
He was playing football yesterday at 10 am. |
ประโยคปฏิเสธ |
S + was/were + not + V.ing |
He was not playing football yesterday at 10 am. |
ประโยคคำถาม |
Was/Were+ S + V.ing |
Was he playing football yesterday at 10 am? |
Subject ประธานประโยค |
Verb to be ที่ใช้ (กริยาช่อง 2 ของ is และ are) |
I, He, She, It, A cat (ประธานเอกพจน์) |
was |
You, We, They, Cats (ประธานพหูพจน์) |
were |
1. เหตุการณ์ที่กำลังเกิดในอดีต เช่น
It was raining yesterday at noon.
(ฝนตกลงมาเมื่อวานตอนเที่ยง)
2. เหตุการณ์ที่กำลังเกิดต่อเนื่องอยู่ในอดีต ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ก่อน แล้วก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก เช่น
I was having a beautiful dream when the alarm clock rang.
(ฉันกำลังฝันดีอยู่เชียว นาฬิกาปลุกก็ดันดังขึ้น)
3. เหตุการณ์กำลังเกิดไปพร้อม ๆ กันในอดีต ไม่มีอันไหนเกิดก่อนเกิดหลัง เช่น
While my mom was cooking, my dad was washing his car.
(ขณะที่แม่กำลังทำอาหาร พ่อก็กำลังล้างรถ)
While, When, as ถือว่าเป็น Key word สำคัญที่บ่งบอกว่าประโยคนี้เป็นประโยค Past continuous tense เลยก็ว่าได้ เช่น
When the police arrived, we were sleeping.
(ตอนที่ตำรวจมาถึง พวกเรากำลังนอนหลับกันอยู่)
While she was drawing a picture, I came in the room.
(ขณะที่เธอกำลังวาดภาพ ผมก็เข้ามาในห้อง )
- ประโยคที่อยู่หลัง while และ as ใช้ past continuous (Subject + was/were +V.ing) เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ยังจะเกิดต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง เช่น We were sleeping, The car was running, She was drawing a picture
- ประโยคที่อยู่หลัง when ใช้ past simple (Subject + V.2) เพราะเป็นเหตุการณ์ที่แทรกเข้ามาสั้น ๆ และจบไปแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าเกิดขึ้นแป๊บเดียว เช่น the police arrived, the phone rang, I came in the room, it started to rain