คำว่า ศีล ได้แก่สภาพเช่นไร ศีลอย่างแท้จริงเป็นไปด้วยความมีสติ
รู้สิ่งที่ควรคิดหรือไม่ควร ระวังการระบายออกมาทางทวารทั้งสาม
คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปตามขอบเขตของศีลที่เป็นสภาพปกติ
ศีลที่เกิดจากการรักษามีสภาพปกติ ไม่คะนองกาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด
นอกจากความปกติงดงามทางกาย วาจา ใจ ของผู้มีศีลว่าเป็นศีล เป็นธรรม
๑. สิ่งที่มีชีวิต เป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียน
ข่มเหง และทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป
๒. สิ่งของของใครๆ ก็รักและสงวน ไม่ควรทำลาย ฉก ลัก ปล้น จี้ เป็นต้น
อันเป็นการทำลายสมบัติและทำลายจิตใจกัน
๓. ลูก หลาน สามี ภรรยา ใครๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง
ไม่ปรารถนาให้ใครมาอาจเอื้อมล่วงเกิน
เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ
๔. มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่น
ให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้เดรัจฉานก็ไม่พอใจคำหลอกลวง
จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย
๕. สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ
ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดีๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าลงโดยลำดับ
ผู้ต้องการเป็นคนดีมีสติปกครองตัวอย่างมนุษย์
จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายสุขภาพทางร่างกายและใจอย่างยิ่ง
เป็นการทำลายตัวเองและผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน
๑. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
๒. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง
มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
๓. ระหว่างลูก หลาน สามี ภรรยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก
ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำกล้ำกราย ต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข
๔. พูดอะไรมีผู้เคารพเชื่อถือ
คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ ด้วยศีล
๕. เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง
จับโน่นชนนี่เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้
ผู้มีศีลเป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลก
ให้มีแต่ความอบอุ่นใจ ไม่เป็นที่ระแวงสงสัย
ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์
ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
ศีลนั้นอยู่ที่ไหน มีตัวตนเป็นอย่างไร
ใครเป็นผู้รักษา แล้วก็รู้ว่าผู้นั้นเป็นตัวศีล
ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนาคือจิตใจ
คนเราถ้าจิตใจไม่มี ก็ไม่เรียกว่าคน มีแต่กายจะทำอะไรได้
ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน
เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่าง ๆ
ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว
ไม่มีเรื่องหลงหาหลงขอ คนที่หา คนที่ขอ ต้องเป็นทุกข์
ขอเท่าไรยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยากยากเข็ญยิ่งไม่มี
กายกับจิตเราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว
ได้มาจากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์แล้ว จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ
ศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว รักษาได้ไม่กี่กาล ได้ผลไม่กี่กาล
ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีลย่อมมีความสุข
ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์สมบูรณ์ ไม่อด ไม่อยาก ไม่จน
ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์
จิตดวงเดียว เป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา
ผู้มีศีลแท้ เป็นผู้หมดเวร หมดภัย
ภูริทตฺตธมฺโมวาท จากหนังสือภูริทตฺตมหาเถรานุสรณ์