It’s 1 o’clock.
(ตอนนี้เวลาบ่ายโมงตรง)
It’s 11 o’clock.
(ตอนนี้เวลาสิบเอ็ดนาฬิกาตรง)
It’s 5 o’clock in the morning.
(ตอนนี้เวลาห้านาฬิกา (ตี 5))
It’s 3 o’clock in the afternoon.
(ตอนนี้เวลาบ่ายสาม)
It’s nine thirty-five. (9.35 น.)
It’s twelve-fifteen. (12.15 น.)
It’s two fifty-three. (7.53 น.)
นาทีที่ 1 – 30 จะใช้ ‘past’ เพื่อบอกว่ากี่นาทีผ่านไปแล้ว เช่น
It’s twenty past seven. (7.20 น.)
It’s nine past one. (1.09 น.)
นาทีที่ 31-59 จะใช้ ‘to’ เพื่อบอกว่าอีกกี่นาทีจะเป็นเวลานั้น ๆ เช่น
It’s four to ten. (9.56 น.)
It’s thirteen to five. (4.43 น.)
It’s a quarter past three. (3.15 น.)
It’s a quarter to six. (5.45 น.)
It’s half past six. (6.30 น.)
a.m. (12.00 a.m. – 11.59 a.m.) นับตั้งแต่ 24.00 น. หรือเที่ยงคืน ไปจนถึง 11.59 น.
p.m. (12.00 p.m. – 11.59 p.m.) นับตั้งแต่ 12.00 น. หรือเที่ยงวันไ ปจนถึง 23.59 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
>>หลักการใช้ a.m. & p.m. ใช้อย่างไรไม่ให้สับสนเรื่องเวลา