Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สงบสติลูกอย่างไรเมื่อเข้าสู่วัยที่เริ่ม Tantrum

Posted By ณัฏฐณี สุขปรีดี | 28 ธ.ค. 61
3,578 Views

  Favorite

          ลงไปดิ้นบนพื้น  

          ทิ้งตัวลงแบบไม่สนแรงโน้มถ่วงโลก

          กรีดร้องอย่างไม่แคร์สายตาประชาชน

 

อาการที่เรียกได้ว่าเกิดขึ้นเป็นปกติสำหรับเด็ก ๆ ที่เริ่มเรียนรู้เมื่อถูกขัดใจหรือเมื่อรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมล่ะคะ โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ แบบนี้

 

ภาพ : Shutterstock

 

แล้วจะทำอย่างไรดี ให้พฤติกรรมที่มาตามพัฒนาการนี้ บรรเทาเบาบางลง และไม่พัฒนาไปเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวเด็ก ๆ ไปจนโต วันนี้ครูพิมมีเทคนิคในการพูดหรือปฏิบัติมาฝากกันแล้วค่ะ ซึ่งขอย้ำไว้ก่อนนะคะว่า เทคนิคเหล่านี้ ควรใช้เมื่อเราเริ่มจับสัญญาณได้แล้วว่า ลูกกำลังจะแสดงอาการ Tantrum เพื่อเป็นการระงับก่อนที่จะระเบิดนั่นเองค่ะ

 

1) ใจเย็น

สติคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับสถานการณ์นี้ค่ะ เมื่อคุณลูกเริ่มจะใจร้อน สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบจัดการก่อนเลยก็คือ การทำในสิ่งที่ตรงข้าม นั่นก็คือ พยายามใจเย็นไว้ก่อน นิ่ง ๆ ไว้เป็นดีค่ะ หลาย ๆ ครั้ง เราพยายามที่จะตำหนิเด็ก ยั่วอารมณ์กันไปมา หรืออาจจะรีบตามใจจนเกินไป สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองแต่อย่างใดค่ะ และจะยิ่งทำให้เกิดพฤติกรรมเหล่านี้ซ้ำ ๆ อีกด้วย

2) หากต้องการพูดกับเด็ก ให้นั่งย่อตัวลงในระดับเดียวกับสายตาเด็ก

ข้อนี้เป็นจุดที่หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ได้สังเกตตัวเองนัก แต่การยืนพูด ชี้สั่ง หรือตะโกนจากที่ไกล ๆ มาถึงตัวเด็ก มักไม่เป็นผลมากนักในการที่จะทำให้เด็กฟังหรือสื่อสารกับเราค่ะ

3) พูดสั้น ๆ ช้า ๆ แต่หนักแน่น

การพูดกับเด็กในช่วงที่อารมณ์กำลังเหวี่ยง จำเป็นที่จะต้องชัดถ้อยชัดคำ และไม่ยืดยาวจนเกินไปค่ะ เพราะไม่ใช่เวลาที่เด็กจะตั้งใจฟังอะไรจากเรานัก หากเรายืนหยัดว่าไม่ได้ เราก็พูดกับเด็กชัด ๆ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นค่ะ เช่น “อันนี้กินไม่ได้นะครับ” “เราต้องกลับแล้วค่ะ” “ตีแม่แบบนี้ไม่ได้นะครับ” เป็นต้นค่ะ

4) ใช้คำพูดที่แสดงถึงความเข้าใจ

หลาย ๆ ครั้ง เราเลือกที่จะสอนเด็กในสถานการณ์เหล่านี้ แต่สิ่งที่ครูพิมแนะนำให้ทำมากกว่า คือ การใช้คำพูดที่แสดงถึงความเข้าใจพวกเขาค่ะ เช่น “แม่รู้ว่าลูกยังไม่อยากกลับ หนูกำลังสนุกเลยใช่ไหมลูก” ก่อนที่จะอธิบายเหตุผลอื่น ๆ ตามมา เช่น หมดเวลาแล้ว เราต้องไปแล้ว หรืออื่น ๆ ซึ่งคำพูดเหล่านี้จะทำให้เด็กเข้าใจพฤติกรรมของตนเองมากขึ้น และเรียนรู้ด้านการจัดการอารมณ์ไปพร้อม ๆ กับพัฒนาการด้านเหตุผลไปด้วยในตัวค่ะ

5) เสนอทางเลือก

เด็ก ๆ มักจะรู้สึกว่า โลกกำลังจะถล่ม เมื่อต้องหยุดทำสิ่งที่ชอบ ต้องไปจากจุดที่กำลังสนุก หรือตอนที่ไม่ได้ดั่งใจในเรื่องใด ๆ ก็ตาม ซึ่งเทคนิคการเสนอทางเลือก เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราสามารถนำมาใช้ในการปรับอารมณ์ของเด็ก ๆ ได้ค่ะ

6) ใช้เพลงเข้าช่วย

จริง ๆ ข้อนี้นับเป็นเทคนิคที่ครูพิมใช้ค่อนข้างบ่อยเลยหละ เมื่อเด็ก ๆ เริ่มอาละวาด ครูพิมมักจะใช้การร้องเพลงคลอเบา ๆ พร้อมกับการสัมผัสที่ตัวเขาอย่างเบามือ สองอย่างนี้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยปลอบประโลมจิตใจเด็กได้อย่างดี และเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างดีเลยหละค่ะ  (แต่ต้องมั่นใจนิดนึงนะคะว่าเสียงเราพอจะถูกจริตเด็กบ้าง ฮ่า ๆ)

 

 

ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี

นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก

Facebook.com/PimAndChildren

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ณัฏฐณี สุขปรีดี
  • 4 Followers
  • Follow