วัน Black Friday คือวันศุกร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุก ๆ ปีในสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) 1 วัน เป็นวันแรกที่ผู้บริโภคหรือขาช้อปทั้งหลายเริ่มต้นที่จะจับจ่ายซื้อของสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในวันนี้ถือเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งของเหล่าขาช้อป เพราะสินค้าที่นำมาขายนั้นลดราคาลงกว่า 50-80 เปอร์เซ็นต์ กันเลยทีเดียว
สำหรับที่มาที่เรียกเทศกาลนี้ว่า Black Friday หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า วันศุกร์แห่งความมืดมน โดยถือกำเนิดขึ้นที่เมืองฟิลาเดเฟีย สันนิษฐานว่าวัน Black Friday ถูกนำมาใช้เรียกเหตุการณ์การจราจรที่หนาแน่นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าในเมืองฟิลาเดียเฟีย เนื่องจากประชาชนออกมาช้อปปิ้งกันอย่างคับคั่ง 20 กว่าปีมาแล้ว ผู้ขายปลีกรายใหญ่เริ่มต้นลดราคาสินค้าในวันนี้ ทำให้วัน Black Friday มียอดขายสินค้าอย่างถล่มทลาย และในช่วงปีที่แล้ว ประชาชนในสหรัฐอเมริกาเสียเงินกันเกือบ 54.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียวในช่วงวัน Black Friday ถือว่าวัน Black Friday เป็นวันที่ทำยอดกำไรให้กับผู้ขายสินค้าอย่างมาก
อย่างที่ทุกท่านรู้กันว่า วัน Black Friday เป็นวันที่สินค้าลดราคาอย่างหนักมากแทบเหมือนจ่ายฟรี ดังนั้น เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้ประชาชนขาช้อปทั้งหลายเสียการควบคุมตัวเองและใช้เงินจนหมด แทนที่จะใช้จ่ายจนหมด เราสามารถทำสิ่งที่ตรงข้ามได้โดยที่ไม่ต้องซื้ออะไรเลย เรียกวันนี้ว่า วัน Buy Nothing Day ซึ่งเป็นวันเดียวกับวัน Black Friday โดยวันนี้ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดาโดย ศิลปินชื่อ Ted Dave ในเดือนกันยายน ปีค.ศ. 1992 กฎง่าย ๆ ของวันนี้ คือ ห้ามซื้ออะไรเลยภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นทำได้ยากมาก จุดประสงค์ของวันนี้คือ ทำให้คนได้ตระหนักและตัดสินใจก่อนที่จะจับจ่ายซื้อของต่าง ๆ นั่นเอง
วัน Buy Nothing Day มีจุดประสงค์ให้คนตระหนักถึงการเป็นผู้บริโภคที่ดี รู้จักตัดสินใจเลือกซื้อของแต่ที่จำเป็น เช่น การซื้อของที่ฮิตตามกระแสแฟชั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่มาเร็วไปเร็ว ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าราคาถูกที่ใส่ได้แค่ไม่กี่ครั้งก็เบื่อ หรือการตัดสินใจที่จะไม่ซื้อโทรศัพท์ใหม่ในทันทีที่โทรศัพท์เครื่องเก่าหมดสัญญาพอดี สิ่งที่พูดมาเหล่านี้ก็ถือเป็นการฝึกไม่จับจ่ายใช้สอยในวัน Buy Nothing Day เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง คือการใช้ของเก่าให้หมดจนใช้การไม่ได้ก่อนแล้วจึงซื้อของใหม่ ถือเป็นผลพลอยได้นอกจากการได้ประหยัดเงินของเราอีกด้วย