เพราะเราต่างก็ทราบกันดีแล้วว่า ช่วงเวลา 3 ปีแรกนั้น เป็นช่วงวัยสำคัญในการพัฒนาเจ้าตัวเล็กในทุก ๆ ด้าน รวมไปถึงด้านความสัมพันธ์ระหว่างเราและลูกอีกด้วย แต่เมื่อสถานการณ์บังคับ ทำให้เราต้องมองหา เดย์แคร์ สถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน เนอสเซอร์รี่ หรือการเข้าเตรียมอนุบาล เพื่อดูแลลูก ๆ ของเราในช่วงเวลาทำงาน
แล้วการจะเลือกสถานที่สักแห่งให้ลูก ๆ ได้ไปใช้เวลาในวัยเด็กของเขาอย่างอบอุ่นนั้น จะต้องใส่ใจกับเรื่องใดบ้าง ที่นอกเหนือไปจากเรื่องทางกายภาพ เช่น สถานที่ ความสะอาด และระยะทาง วันนี้ครูพิมมีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
เพราะเด็กเล็ก ๆ ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเลยค่ะ สำหรับการสร้างความไว้วางใจกับใครสักคนหนึ่ง โดยเฉพาะคนนอกครอบครัว ซึ่งหากการไปเดย์แคร์แล้วเด็ก ๆ พบกับคนแปลกหน้าบ่อย ๆ ก็จะไม่ส่งผลดีนักต่อทั้งพัฒนาการและสภาพจิตใจของเด็กค่ะ
เด็กแต่ละคน บ้านแต่ละบ้าน อาจจะมีความต้องการพิเศษที่แตกต่างกัน ซึ่งจุดนี้เราต้องสังเกตและสอบถามให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ว่าสถานที่นั้น ๆ สามารถทำตามเงื่อนไขบางอย่างของเราได้หรือไม่ โดยเฉพาะในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น อาหารที่ลูกแพ้ ปัญหาด้านสุขภาพของเด็ก หรือวิธีการเลี้ยงดูหรือจัดการกับพฤติกรรมของเด็กในรูปแบบที่เราเชื่อมั่นว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ เหล่านี้เป็นต้นค่ะ
สำหรับสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีมาตรฐานนั้น ควรที่จะต้องมีการสื่อสารหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กให้ผู้ปกครองทราบอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นการสะท้อนถึงความใส่ใจและการให้ความสำคัญกับเด็กเป็นรายบุคคล และทำให้ผู้ปกครองได้มีข้อมูลเกี่ยวกับลูกในช่วงเวลาที่ตนไม่ได้อยู่ด้วยนั่นเองค่ะ
ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก