ใช้เป็นคำเชื่อมที่วางไว้หน้าประโยคเพื่อเชื่อมความขัดแย้งของประโยคทั้งสองประโยค ซึ่งคำว่า though ถือเป็นคำที่ไม่เป็นทางการมาจากคำว่า Although ที่มีความหมายเดียวกัน แปลว่า ทั้ง ๆ ที่
Though Singapore is a very small country, it’s a rich country.
(ถึงแม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ก็เป็นประเทศที่ร่ำรวย)
Though I am very sleepy, I don’t go to bed.
(ถึงแม้ว่าฉันจะง่วงมากแค่ไหนก็ตาม ฉันก็ไม่ไปนอน)
Though Janie is so hot, she has no boyfriend.
(ถึงแม้ว่าเจนนี่จะเป็นคนที่ฮอตมาก แต่อย่างไรก็ตามหล่อนก็ไม่มีแฟน)
เมื่อวาง though ไว้ท้ายประโยค จะมีความหมายเหมือนกับคำว่า anyway, regardless, nonetheless มีความหมายว่า แต่อย่างไรก็ตาม หรือ ยังไงก็….. เรามักจะใช้คำว่า though ไว้ท้ายประโยคเหมือนกับคำว่า anyway มักใช้กับคำว่า Thank you เพื่อแสดงความขอบคุณถึงแม้ว่าจะไม่ต้องการสิ่งนั้นก็ตาม ความรู้สึกประมาณว่าถึงจะไม่ต้องการแต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ ประมาณนี้ มักใช้ในเชิงสนทนา ไม่ได้เป็นทางการมากนัก
I’ve had enough to eat. Thanks, though.
(ฉันมีของกินเพียงพอละค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ)
A: Would you like some orange juice?
(คุณต้องการจะรับน้ำส้มไหมคะ)
B: I’ve just had some water. Thanks, though!
(ฉันได้รับน้ำเปล่าแล้วค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ)
Tom is not clever. He is handsome, though.
(ทอมไม่ค่อยฉลาดเท่าไร แต่ยังไงเขาก็หล่อนะแก)
คำว่า though มีความหมายคำเดียวกับคำว่า however หรือ but แปลว่า แต่ หรือ อย่างไรก็ตาม สามารถใช้แทนกันได้ในประโยค
Children played in the playground, though it was raining all day.
(เด็ก ๆ เล่นกันในสนามเด็กเล่น ถึงแม้ว่าฝนจะตกหนักทั้งวัน)
I don’t like to eat vegetable, though I’ve eaten salad already today.
(ฉันไม่ค่อยชอบกินผัก แต่วันนี้ฉันก็กินสลัดไปเรียบร้อยแล้ว)
He is not my type, though I gave him my phone number.
(เขาไม่ใช่สเปกฉันหรอก แต่ถึงยังไงฉันก็ให้เบอร์โทรศัพท์ฉันไปแล้วนะ (ไม่ชอบแต่ให้เบอร์นะจ้า 55555))
as though มีความหมายเหมือนคำว่า like หมายถึง ดูเหมือนว่า
She acted as though she was happy.
(เธอแสดงให้ดูเหมือนว่าเธอมีความสุข)
Look at that cloud! It looked as though it was going to rain.
(ดูเมฆก่อนนั้นสิ ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตกนะ)